ความหวังใหม่ของ All New Toyota Prius นอกเหนือจะคาดหวังยอดขายที่ดีขึ้น
กว่ารุ่นเดิมแล้ว Toyota ยังต้องการให้ผู้คนมองรถ Prius ในภาพลักษณ์ใหม่ ไม่ใช่
รถ Hybrid อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ดูน่าเบื่อเหมือนรุ่นเดิม ๆ คราวนี้ถึงขั้นลงทุนออก
แบบตัวถังให้ดูแหวกแนวมากขึ้น จน Toyota กล้าเคลมว่าสัดส่วนเนื้อที่ด้านหน้าตัว
รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำเทียบเท่ากับ Toyota 86 แต่สุดท้าย ยอดขาย Toyota Prius
ก็ดูเหมือนยังไม่ไปถึงฝั่งฝัน
รายงานล่าสุดแจ้งมาว่า ยอดขายรถยนต์ตระกูล Toyota Prius (Prius, Prius V
และ Prius C) ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนสิงหาคม 2016 ในตลาดสหรัฐอเมริกา
หดลงถึง 26% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้ง ๆ ที่ Toyota ก็
เพิ่งเปิดตัว Prius รุ่นใหม่!!
แล้วมันเป็นเพราะอะไรที่ทำให้รถที่เคยเป็นที่น่าจับตามองอย่าง Toyota Prius มียอดหดลง
Brendan Harrington ประธาน Longo Toyota ดีลเลอร์รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
กล้ายืนยันว่า สาเหตุที่ยอดขาย Prius ตกนั้นไม่เกี่ยวกับตัวรถเลย แต่มันเกิดจากราคาน้ำมัน
ลดลงต่ำกว่า 3 ดอลลาร์ต่อแกลลอนจนทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนใจไปซื้อรถกระบะและเอสยูวี
แทนที่จะซื้อรถประหยัดน้ำมัน
Edmunds.com ยังคาดการณ์แนวโน้มกันว่าลูกค้าชาวอเมริกันอาจจะนำรถ Hybrid หรือ
รถไฟฟ้ารุ่นเก่ามาแลกเปลี่ยนเป็นเอสยูวีรุ่นใหม่แทนที่จะเป็นรถ Hybrid หรือรถไฟฟ้า
เจเนเรชั่นใหม่
Brian Maas หัวหน้าสมาคมผู้ค้ารถยนต์ใหม่สหรัฐอเมริกาวิเคราะห์ว่าศัตรูตัวฉกาจของ
Toyota Prius คือราคาน้ำมัน เมื่อราคาน้ำมันพุ่งสูงถึง 4 ดอลลาร์ต่อแกลลอน Toyota
Prius ก็เคยครองใจลูกค้าเป็นอันดับ 1 ในช่วงเวลานั้น
ยอดขายที่ตกต่ำลงของรถยนต์ตระกูล Prius ในสหรัฐอเมริกามันช่วงสวนทางกับตลาด
ญี่ปุ่นเสียเหลือเกิน เพราะยอดขายสะสมของ Toyota Prius และ Aqua หรือ Prius C
ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนสิงหาคม 2016 พุ่งสูงถึง 304,000 คันไปแล้วซึ่งถือว่าสูงกว่าตลาด
สหรัฐอเมริกาถึง 4 เท่า
สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ Toyota Prius ยังรุ่งเรืองในญี่ปุ่นก็เพราะรัฐบาลเก็บภาษีน้ำมัน
เบนซินสูงขึ้นจนทำให้ราคาน้ำมันพุ่งโดดสูงถึง 4.5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
Hisashi Nakai หัวหน้ากลุ่มการสื่อสารเทคโนโลยีแห่ง Toyota Motor แสดงความคิดว่า
ความรู้สึกถึงคุณค่ารถยนต์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมระหว่างชาวอเมริกันและญี่ปุ่นต่างกันมาก
ชาวอเมริกันต้องการรถที่ใหญ่เพราะพวกเขาใช้งานหนักกว่า ส่วนตลาดญี่ปุ่นยังตอบรับรถ
Hybrid ดีโดยไม่เกี่ยวกับราคาน้ำมันอยู่แล้ว
Toyota ไม่ได้รับผลกระทบยอดขายรถยนต์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากภาวะราคา
น้ำมันดิ่งตัวแค่เจ้าเดียว Nissan Leaf ก็ประสบชะตากรรมยอดขายประจำเดือนสิงหาคม
2016 ตกต่ำลง 36% ส่วนยอดขายสะสมตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนสิงหาคม 2016 ก็หด
ตัวถึง 14.4%
ส่วนค่ายที่ไม่ได้รับผลกระทบเลยก็คือ Tesla และ GM
หากเจาะลึกเฉพาะ Toyota Prius รุ่นมาตรฐานมียอดขายสะสม 8 เดือนหดลง 9.6%
, Prius V หดตัวลง 50% และ Prius C ลดลง 45%
ในเมื่อ Toyota รู้ว่าเกมส์การตลาดมันพลิกเช่นนี้ Toyota จึงหันทำตลาดรถกระบะ
เพื่อชดเชยกับยอดที่หายไป แต่โชคร้ายที่โรงงานผลิตรถกระบะปัจจุบันไม่มีกำลังการ
ผลิตเพิ่มขึ้นไปกว่านี้อีกแล้ว
แม้ Toyota เคยเคลมว่า Prius ใหม่เป็นรถยนต์ที่มีความกล้าและเฉียบคมในการออกแบบ
ด้วยโปรไฟล์ด้านข้างตัวรถมาแบบสปอร์ต แต่ Chris Redl นักวิเคราะห์แห่ง Siena Carnico
Capital LLC กลับแย้งว่า Prius ใหม่มีแนวคิดที่ดี แต่ Toyota กลับทุ่มเทแรงกายแรงใจ
ไปยังเทคนิคกลไกของระบบ Hybrid มากกว่ามุ่งเน้นการออกแบบ
คาดว่ายอดขาย Toyota Prius ในตลาดสหรัฐอเมริกานับจากนี้น่าจะแปรผันตามกลไก
ราคาน้ำมันและข้อกำหนดมลภาวะจากรัฐบาลล้วน ๆ หรือที่จริงแล้วเป็นเพราะดีไซน์กันแน่ ?
ที่มา : Nasdaq