สถานการณ์การแข่งขันในตลาดอีโคคาร์ก็เริ่มมาคุมาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม โดยเฉพาะศึกแย่งชิงความโดดเด่นระหว่าง
Suzuki Swift และ Mitsubishi Mirage  ตอนสตาร์ทดูเหมือนว่าฝ่าย Suzuki Swift จะได้เปรียบจากการใช้กำลัง
สื่อสารมวลชนเพราะทาง Suzuki ได้เปิดให้มีการรีวิว Swift Ecocar แบบ Exclusive ก่อนใครจนกลายเป็นกระแสพูดถึง
กันมากในสื่ออินเตอร์เน็ตถึงความโดดเด่นของตัวรถ

กองกำลังฝ่าย Mitsubishi ไม่ยอมแพ้เร่งสปีดงัดข้อมูลอีโคคาร์คันเก่ง Mirage พร้อมทั้งรูปภาพเวอร์ชันจำหน่าย
เมืองไทยเต็มรูปแบบชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และเพื่อก่อให้เกิดกระแสพูดถึงมากยิ่งขึ้น Mitsubishi เร่งระดมเปิดพื้นที่สื่อ
ออนไลน์ทุกชนิด หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ปล่อยสเปคและราคาอย่างละเอียดชนิดที่สามารถระงับการตัดสินใจซื้ออีโคคาร์
ค่ายอื่นจนกว่าจะถึงเวลาเปิดตัว

วันที่ 20 มีนาคม 2012 Mitsubishi ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว Mirage อีโคคาร์รุ่นที่ 4 ของประเทศไทยและ Mitsubishi ก็
กลายเป็นแบรนด์ลำดับที่ 3 ที่ตัดหน้าการเปิดตัว Suzuki Swift ไปอย่างฉิวเฉียด นี่แค่ศึกเริ่มต้นในการสร้างความสนใจ
ให้กับลูกค้าเท่านั้น

สำหรับชื่อรุ่นว่า “มิราจ” มาจากคำภาษาอังกฤษ MIRAGE ซึ่งเป็นชื่อที่ Mitsubishi เคยใช้สำหรับรถยนต์นั่ง
ขนาดเล็กที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงการประหยัดทรัพยากร พลังงาน พื้นที่ใช้สอย และประสิทธิภาพ
ของรถซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม 1978 สำหรับ Mirage ใหม่ ถูกสร้างขึ้นภายใต้
แนวคิดที่ต้องการสืบทอดคุณสมบัติเด่นของ Mirage รุ่นแรก ทั้งในด้านของสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม และฟังก์ชั่น
การใช้งานครบครันแม้จะเป็นรถยนต์ขนาดเล็กก็ตาม

Mitsubishi Motors และ Mitsubishi Motoers Thailand ได้ยื่นเรื่องขอรับการสนับสนุนการลงทุนในโครงการ
ECO Car กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน( BOI) ของไทย นับตั้งแต่ปี 2008 ที่ผ่านมา ก่อนจะ
ได้รับการอนุมัติแบบการผลิตจากกระทรวงอุตสาหกรรม และล่าสุดได้ผ่านการพิจารณาอนุมัติการผลิตอย่าง
เป็นทางการจากภาครัฐ โดยผ่านข้อกำหนดทางเทคนิคของรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลที่ระบุไว้
3 ด้าน ได้แก่

–  ด้านการประหยัดพลังงาน ต้องมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 5 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร
–  ด้านสิ่งแวดล้อม ต้องเป็นไปตามมาตรฐานมลพิษระดับ ยูโร 4 หรือระดับที่สูงกว่า และปริมาณก๊าซ
    คาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกจากท่อไอเสียไม่เกิน 120 กรัม ต่อ 1 กิโลเมตร
–  ด้านความปลอดภัย  ต้องมีคุณสมบัติในการป้องกันผู้โดยสารกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า
   และด้านข้างตัวรถ ตามข้อกำหนด UNECE Reg.94 และ 95

Mitsubishi MIRAGE จะเป็นผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ระดับโลกและรถยนต์รุ่นใหม่ในสายผลิตภัณฑ์ของ
Mitsubishi Motors ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ของทั้งตลาดในประเทศและประเทศ
ในเขตเศรษฐกิจใหม่ รวมถึงตลาดทั่วไปที่มีความสนใจในรถขนาดเล็กตามแนวโน้มด้านพลังงานและ
ความตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อม Mirage ได้รับการออกแบบโดยเน้น “ความกะทัดรัด” “ราคาที่สามารถเป็น
เจ้าของได้ง่าย” และ “ให้การประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม” ซึ่งตั้งเป้าสูงสุดไว้ที่ 22 กิโลเมตร/ลิตร  รวมไปถึง
การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับคุณลักษณะของโครงการรถยนต์ประหยัด
พลังงานมาตรฐาน สากล หรือ ECO Car ของรัฐบาลไทย ที่มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการลงทุนใน
อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ และลดปริมาณการใช้น้ำมันตลอดจนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
สู่บรรยากาศโลก  

การออกแบบภายนอกมาในแนวทางสง่างาม ปราดเปรียว แต่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด เน้นการออกแบบให้ง่ายต่อการขับขี่
ตามแบบฉบับของรถยนต์ขนาดเล็กแต่ให้ความสะดวกสบายด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางรับกับฟังก์ชั่นการใช้งาน
โครงสร้างตัวถังมีขนาดเล็กกะทัดรัดซึ่งมีขนาดเล็กกว่า Mitsubishi Colt รุ่นปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัดเพื่อหวังผลการลด
น้ำหนักลงซึ่งถือว่าเบากว่าคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Nissan March, Honda Brio และ Suzuki Swift ร่วม 100 กิโลกรัม
(น้ำหนัก Mirage ระหว่าง 830-865 กิโลกรัม) ส่งผลดีต่ออัตราสิ้นเปลืองที่เหนือกว่า เบาขนาดนี้ความปลอดภัยก็หมดห่วง
ด้วยการเสริมส่วนรับแรง กระแทกผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ “High-tensile steel”

มิติตัวถัง Mitsubishi Mirage มีความยาว 3,710 มม. ความกว้าง 1,665 มม. ความสูง 1,490 มม. ความยาวฐานล้อ
2,450 มม. อยู่ในมิติระดับเดียวรถซับคอมแพคท์มาตรฐาน

การออกแบบภายในห้องโดยสารของ Mitsubishi Mirage อีโคคาร์ มาพร้อมนวัตกรรมการออกแบบทำให้ได้มาซึ่งห้อง
โดยสารที่กว้างขวางขึ้นรับกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ให้ความรู้สึกกว้างขวางสะดวกสบายในทุกๆ ส่วนไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง
ผู้โดยสารหรือคนขับ  พร้อมการจัดวางพื้นที่ห้องโดยสารให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง  เบาะนั่งหลังสามารถพับ
ปรับแบบ 60:40  ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากขึ้น  (ยกเว้นรุ่น GL)

ขุมพลังของ Mitsubishi Mirage ติดตั้งเครื่องยนต์บล๊อกใหม่ 3A92 3 สูบ DOHC MIVEC ความจุกระบอกสูบ 1,193 ซีซี 78
แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 10.2 กิโลกรัมเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์ CVT ความจุถัง
น้ำมัน 35 ลิตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กิโลเมตรต่อลิตร จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการตาม
มาตรฐานยุโรป UNECE Reg.101 Rev.01 Combine Mode

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเหนือชั้นคู่แข่ง

Mitsubishi Mirage รุ่น GLS และ GLS Ltd มาพร้อมความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้นด้วยระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS
เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่นำสมัยของลูกค้า ที่ช่วยให้สามารถล็อกหรือปลดล็อก ประตู และฝากระโปรงท้าย รวมไปถึง
สตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้กุญแจ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push ‘Engine
switch’ button) เพิ่มความสะดวกในการสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ในขณะที่รุ่น GLX มาพร้อมกุญแจ
รีโมทเพิ่มความสะดวกสบายในการล็อกและปลดล็อกรถจากระยะไกล

เพลิดเพลินตลอดการขับขี่ด้วยระบบความบันเทิงครบครัน โดยในรุ่น GLS Ltd. มาพร้อมวิทยุ ซีดี MP3 ดีวีดี  จอภาพแบบ
ระบบสัมผัส (Touch Screen) ขนาด 7 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) ระบบนำทางในรถ   
(Navigator System) และช่อง USB  ในขณะที่รุ่น GLX และ GLS มาพร้อมวิทยุซีดี  MP3  พร้อมช่อง AUX-in และช่อง
USB

เพิ่มประโยชน์ใช้สอยในทุกตารางนิ้วด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะ
เป็นช่องเก็บของบริเวณคอนโซลหน้า ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า (ยกเว้นรุ่น GL)  ตะขอสำหรับแขวนของ
ที่เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า*2 ที่วางแก้วน้ำบริเวณคอนโซลกลาง 3 ตำแหน่ง ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลาง และช่อง
เก็บของข้างประตูคู่หน้า พร้อมช่องใส่ขวดน้ำ  

กุญแจรีโมทพร้อมระบบควบคุมการพับและกางกระจกมองข้างอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกสบายพร้อมป้องกันความ
เสียหายจากการจอดรถในที่แคบ
ไฟหน้าปิดได้เองโดยอัตโนมัติ โดยระบบจะตัดการทำงานของไฟหน้ารถโดยอัตโนมัติหลังจากดับเครื่องยนต์ แล้วเปิดประตู
ช่วยให้ไฟในแบตเตอรี่ไม่หมด

นอกเหนือจากนี้ Mitsubishi Mirage ใหม่ยังมาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานรถยนต์
มากมายอาทิ– ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ ในกรณีที่ฝนตกหากผู้ขับเปิดที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่งปัดเป็นจังหวะเมื่อ
รถถึงความเร็วที่กำหนดที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 โดยอัตโนมัติ และจะกลับมาที่ตำแหน่งปัดเป็นจังหวะ
เหมือนเดิม

เมื่อความเร็วลดลงหรือหยุดรถ – ใบปัดน้ำฝนหลังเปลี่ยนเป็นปัดต่อเนื่องในกรณีเปิดใบปัดน้ำฝนหลังในตำแหน่งปัดหยุด
เมื่อผู้ขับเข้าเกียร์ในตำแหน่งเกียร์ R ใบปัดจะเปลี่ยนเป็นปัดต่อเนื่อง 2 ครั้งอัตโนมัติเพื่อทัศนวิสัยที่ดีขึ้นในขณะขับถอยหลัง
เพิ่มความปลอดภัยมากกว่า – ระบบล็อคประตูซ้ำอัตโนมัติ โดยระบบจะสั่งล็อคประตูทุกบานโดยอัตโนมัติหากไม่มีการ
เปิดประตูภายใน30 วินาที หลังจากกดปุ่มปลดล็อคประตูรีโมท — ระบบสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลน เพียงขยับก้านไฟ
เลี้ยวเพียงเล็กน้อยสัญญาณไฟเลี้ยวและสัญญาณไฟเตือนในหน้าปัดจะกระพริบ 3 ครั้ง—ระบบหน่วงเวลาปิดไฟในห้อง
โดยสารภายใน 15 วินาที เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบสัมภาระภายในรถ — ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้า
หลังจากดับเครื่องยนต์ กระจกไฟฟ้าจะยังสามารถเปิด-ปิดได้ต่อไปอีกภายใน 30 วินาที

Mitsubishi Mirage มีสีให้เลือกถึง 5 สีด้วยกัน ได้แก่

(1)         สีขาวมุก          –   White Pearl (เพิ่มเงิน 5,000 บาท)                       

(2)         สีเหลือง         –   Lemonade Yellow Metallic

(3)         สีเขียว         –   Pop Green Metallic

(4)          สีแดง        –   Red Metallic

(5)         สีฟ้า        –   Cerulean Blue  Mica

(6)         สีเทาดำ            –   Eisen Gray Mica

(7)         สีดำ             –   Pyreness Black Mica

(8)         สีเงิน             –   Cool Silver

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

สำหรับ ลูกค้าที่จองรถยนต์ Mitsubishi Mirage ทุกรุ่น ในช่วงเปิดตัว จำนวนจำกัด รับฟรีประกันภัยชั้น 1 “ไดมอนด์ อินชัวรันซ์” และรับโบนัสพิเศษเงินคืน 10,000 บาท

และลูกค้าทุกท่านสามารถรับสิทธิ์คืนเงินภาษีสูงสุดถึงประมาณ  79,000 บาท ตามช่วงระยะเวลาประกาศจากรัฐบาล

Mitsubishi จะปล่อยภาพยนต์โฆษณา, สื่อสิ่งพิมพ์และสื่อออนไลน์ครบทุกรูปแบบผ่านการสื่อสารแนวคิด “Be More ให้คุณได้มากว่า” โดยได้ดึงนักร้องสัญชาติไทยแต่โด่งดังทั้งเกาหลีและไทย

“นิชคุณ หรเวชคุณ” มาเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อสร้างการจดจำสินค้า ตั้งเป้าจำหน่าย 2,000 คันต่อเดือน

ลูกค้า ทุกท่านสามารถจอง Mitsubishi Mirage ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหรือจะเยี่ยมชมคันจริงในงาน Bangkok International Motorshow 2012 ครั้งที่ 33

ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม– 8 เมษายน 2555