ปัญหาสำคัญของ BMW ณ เวลานี้คือ BMW ยังไม่สามารถครอบครองตำแหน่ง
ผู้นำตลาดรถยนต์ระดับ Top End ราคา 82,600 ยูโรขึ้นไปหรือรถยนต์ในกลุ่ม
BMW 7-Series ได้อย่างเด็ดขาดเพราะ BMW ยังต้องงัดข้อกับ Mercedes-Benz
S-Class ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ถึงแม้ว่า S-Class มันเปิดตัวมามานานถึง 4 ปี
แต่ด้วยบุคลิกตัวรถที่โดนใจกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จึงทำให้ลูกค้ายังไม่กล้าเปลี่ยนใจจาก
S-Class ไปหา 7-Series เท่าที่ควร

ถ้าในเมื่อ BMW มองว่าพวกเขาไม่สามารถครอบครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์
กลุ่ม Top End ได้ BMW จึงต้องพลิกเกมส์ใหม่ที่ฉีกแนวออกไป

2016_08_30_BMW_7_Series

บุคคลจากวงภายในระบุว่า BMW กำลังวางแผนพัฒนา 7-Series Coupe เพื่อให้
ทันเปิดตัวภายในปี 2019 โดยมีความหวังว่า 7-Series Coupe จะช่วยเพิ่มยอดขาย
รถยนต์ในกลุ่ม Top End ให้สูงขึ้น

การวางหมากใหม่ครั้งนี้ถือว่าเดินตามเกมส์ของ Mercedes-Benz ที่พัฒนา S-Class
ตัวถังคูเป้และเปิดประทุนสำหรับเสริมทัพตัวถังซีดาน เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย
จนทำให้ Mercedes-Benz สามารถครองความเป็นผู้นำในกลุ่มตลาด Top End อย่างยาวนาน

สถานการณ์ยอดขายของ BMW 7-Series ใหม่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เพราะมันมียอดขาย
ที่ตามหลัง S-Class ถึง 40% และมียอดขายนำหน้า Tesla Model S เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ที่สำคัญ BMW 7-Series อาจจะต้องหนาวร้อนกันอีกรอบเมื่อ Audi คิดจะเปิดตัว
A8 โฉมใหม่ล่าสุดที่กล้าปฏิวัติดีไซน์ที่สวยงาม สปอร์ต ล้ำสมัยขึ้นมาก และที่สำคัญ
Audi A8 โฉมใหม่มาพร้อมกับระบบขับขี่อัตโนมัติสมบูรณ์แบบอีกด้วย

เมื่อวิเคราะห์จากเหตุผลทั้งหมดก็คงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม BMW จะต้องมี 7-Series
Coupe เอาไว้ประดับบารมี

2016_08_30_BMW_7_Series_2

อย่างไรก็ตาม BMW ยังคงโชคดีอยู่ที่เคยวางรากฐานแบรนด์ให้มุ่งไปยังตลาดเอสยูวีมากขึ้น
ทำให้ยังมียอดขายสะสมทั่วโลกตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนกรกฎาคม 2016 นำ Mercedes-Benz
ประมาณ 30,000 คัน ไม่เช่นนั้น BMW อาจจะสูญเสียความเป็นผู้นำตลาดไปให้คู่แข่งได้

สิ่งที่แบรนด์หรูทุกค่ายต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมาก คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้รถยนต์ในระดับ
Top End ดูเป็นที่น่าสนใจหรือน่าจดจำจนกลายเป็นสัญลักษณ์เด่นประจำแบรนด์ เนื่อง
จากรถยนต์รุ่นบน ๆ จะมีผลสำคัญต่อการสร้างภาพลักษณ์ให้แก่รถนต์รุ่นอื่น ๆ ด้วย และ
นั่นก็เป็นปัญหาสำคัญของ BMW 7-Series โฉมใหม่เสียด้วย

แหล่งข่าวภายในจาก BMW คนเดิมยังวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ยอดขาย BMW 7-Series
ไปไม่ถึงดวงดาวว่า นั่นเป็นเพราะมันมีเทคโนโลยีล้ำมัยน้อยเกินไปและมีดีไซน์ที่น่าเบื่อ
อาทิ ฟังก์ชัน Gesture Control ที่จำกัดการวาดมือเพื่อออกคำสั่งเพียงแค่ 5 ท่าสำหรับ
ควบคุมคำสั่งเครื่องเล่นวิทยุซึ่งก็ไม่ได้โดดเด่นไปกว่าเทคโนโลยี AutoPilot ใน Tesla Model S เลย

แล้วก็ BMW 7-Series ไม่ได้มีตัวเลือกที่หลากหลายเท่ากับ Mercedes-Benz S-Class
ที่มีตัวถังเปิดประทุนหรือมี Mecedes-Maybach S-Class ให้เลือก

นอกเหนือจากการแนะนำ BMW 7-Series Coupe ในอนาคต BMW ก็จะเตรียมแนะนำ
รถยนต์ Top End รุ่นอื่นเพื่อมาแข่งขันกับ Mercedes-Maybach ที่อยู่ในย่านราคา 150,000
ยูโรขึ้นไปด้วย

ที่มา : Automotive News