Mercedes-Benz E-Class W124 หรือโฉมโลงจำปา ที่คนไทยคุ้นชิน ยังคงพบเจอได้ทั่วไป
บนท้องถนนของสยามประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรุ่น 4 ประตู และ อาจจะมีรุ่น 2 ประตู คูเป้
แซมๆมาบ้าง วันดีคืนดีอาจจะได้พบเจอรุ่น 5 ประตูหลุดมา แต่ที่เหนือกว่านั้น คือรุ่น 2 ประตู
เปิดประทุนที่หายากเย็น เนื่องจากทาง Mercedes-Benz กำลังเฉลิมฉลองที่ E-Class Cabriolet
มีอายุครบรอบ 25 ปี เราจึงจะมาทำความรู้จักกับรถยนต์รุ่นนี้แบบคร่าวๆกัน

25-years-of-the-e-class-cabriolet_2

E-Class W124 รุ่นเปิดประทุน จะใช้รหัสตัวถัง A124 ส่วนรุ่นหลังคาแข็ง 2 ประตูจะเรียกว่า C124
รุ่น 5 ประตู T-Modell เรียกว่า S124 และ ยังมีรุ่นฐานล้อยาวที่ใช้รหัส V124 ด้วย สำหรับการเปิดตัว
ของ A124  เกิดขึ้นครั้งแรกที่งาน Frankfurt Motor Show ที่จัดในเดือนกันยายนปี 1991 หลังจาก
ที่ค่ายดาวสามแฉกได้ทิ้งตลาดรถยนต์เปิดประทุนหลังคาผ้าใบ 4 ที่นั่ง ไปนานกว่า 20 ปี โดยรุ่น
สุดท้ายก่อนมาเป็น A124 คือ 280 SE Cabriolet ผลิตขึ้นในปี 1971 โดยมีพื้นฐานจาก S-Class W111

25-years-of-the-e-class-cabriolet_3

แม้ว่า A124 จะไม่ได้ดูต่างจาก C124 เลย นอกจากหลังคา แต่มันได้สร้างความปวดหัวให้กับทีมวิศวกร
ของ Mercedes-Benz ไม่น้อย เนื่องจากพวกเขาต้องการให้ A124 มีความปลอดภัยเช่นเดียวกับ E-Class
ในตัวถังแบบอื่นๆ เป็นเหตุให้พวกเขาต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่หมดกว่า 1,000 ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเปลี่ยน
ไปใช้เหล็กแรงดึงสูงที่หนาขึ้น เป็นผลให้ A124 มีน้ำหนักมากกว่าพี่น้องร่วมตระกูลด้วย

25-years-of-the-e-class-cabriolet_4

เสา A-Pillar มีจุดเชื่อมพิเศษ เพื่อป้องกันการงอผิดรูป หลังคาของ A124 มีน้ำหนักมากถึง 43 กิโลกรัม
แต่มีจุดเชื่อมต่อกัน 27 จุดพร้อมจุดยึดอีก 34 จุดเพื่อความปลอดภัยในกรณีพลิกคว่ำทั้งยังมี Automatic
Rollover Bar ติดตั้งมาให้ด้วย สำหรับช่วงล่าง หยิบยืมเทคโนโลยีช่วงล่าง Strut มาจาก SL-Class R129
เพื่อลดแรงกระเทือนจากพื้นถนน ที่พบได้มากในรถยนต์ที่ไม่มีโครงหลังคา

25-years-of-the-e-class-cabriolet_6

A124 เริ่มผลิตเป็นครั้งแรกในปี 1992 ที่โรงงานในเมือง Sindelfingen และ ออกจำหน่ายในปีเดียวกัน
ชื่อ 300CE-24 Cabriolet ที่มีเพียงขุมพลัง 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตรให้ กำลังสูงสุด 223 แรงม้า (PS)
ที่ 6,400 รอบ/นาที ให้เลือกเพียงรุ่นเดียวก่อน พอในเดือนมิถุนายน 1993 ที่ A124 ได้รับการ facelift
เป็นรุ่น “E หน้า” พร้อมพี่น้องร่วมตระกูลและมีขุมพลังใหม่ให้เลือกมากถึง 4 รุ่นดังต่อไปนี้

25-years-of-the-e-class-cabriolet_7

– E200 Cabriolet 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 138 แรงม้า (PS)
– E220 Cabriolet 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 151 แรงม้า (PS)
– E320 Cabriolet 6 สูบ ให้กำลังสูงสุด 223 แรงม้า (PS)
– E36 AMG Cabriolet 6สูบ ให้กำลังสูงสุด 276 แรงม้า (PS)

นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงหลังคาผ้าใบไปใช้วัสดุใหม่ที่เก็บเสียง และ ควบคุมอุณหภูมิ
ได้ดีกว่าพร้อมกับติดตั้งหลังคาแบบ Electrohydraulic มาให้เป็นมาตรฐาน

25-years-of-the-e-class-cabriolet_1

A124 ออกจากการผลิตไปในปี 1997 ด้วยยอดขายทั้งหมดจำนวน 33,952 คัน แบ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์
4 สูบ จำนวน 15,380 คัน และ 6 สูบ อีก 18,572 คัน เป็นรุ่นก่อน Facelift อยู่ 6,343 คัน ส่วนผู้สานต่อ
นั้นเป็น CLK-Class รุ่นแรก รหัส A208 ออกจำหน่ายในปี 1998-2003 ตามมาด้วย รุ่นที่สองรหัส A209
ในปี 2003-2010 ก่อนที่จะกลับมาเป็น E-Coupe Cabriolet อีกครั้งในปี 2010 อีกครั้งด้วยรหัส A207
สำหรับ E-Cabriolet รุ่นถัดไปที่มีพื้นฐานจาก E-Class W213 จะตามมาอย่างแน่นอนในช่วงหน้า 2017
แฟนๆค่ายดาวสามแฉก รอติดตามกันได้อีกไม่นานเกินรอ

2016_07_23_MB

.

ที่มา : autoevolution