ก่อนที่กระแสรถไฟฟ้ากำลังจะเกิดในช่วงระหว่างปี 2007-2010 ผู้ขับขี่และคนทั่วไป
ยังกังขากับระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จไฟฟ้าให้เต็มประจุแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้าไม่น้อย
สรุปง่าย ๆ คือกลัวซื้อรถไฟฟ้ามาวิ่งแล้วยังต้องกังวลว่ามันจะวิ่งแล้วไฟดับระหว่างทางไหม?
แล้วบางคนก็ยังเผื่ออีกว่าถ้าวิ่งต่างจังหวัดทางไกลจะทำยังไง? เพราะลูกค้ารถยนต์ส่วน
ใหญ่ก็อยากจะซื้อรถยนต์ที่ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าจริง ๆ
จนกระทั่งในระหว่างปี 2010-2016 ก็เริ่มมีรถไฟฟ้าเปิดตัวอย่างอุ่นหนาฝาคั่งก็ทำ
ให้ความรู้ความเข้าใจของผู้คนเริ่มเปลี่ยนไปบ้าง และในระหว่างนี้ก็มีบริษัทข้อมูล
และนักวิเคราะห์พยายามเก็บสำรวจข้อมูลพฤติกรรมการใช้รถยนต์ของคนยุคใหม่ก็พบว่า
ผู้ขับขี่ชาวอังกฤษ 99% กลับใช้งานรถยนต์ต่อวันน้อยกว่า 100 ไมล์หรือ 160 กิโลเมตรเท่านั้น!!
และล่าสุดเว็บไซต์ Carbon Brief ก็สำรวจพฤติกรรมผู้ขับขี่ชาวสหรัฐอเมริกาจากฐานข้อมูล
ผลสำรวจการท่องเที่ยวในครัวเรือนแห่งชาติสหรัฐอเมริกาก็พบว่า รถไฟฟ้ายุคนี้ครอบคลุม
กับพฤติกรรมการใช้รถยนต์ของคนอเมริกันในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลการใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวันของชาวอเมริกันก็พบว่าร้อยละ 87
มีระยะการใช้งานรถยนต์ต่ำกว่า 75 ไมล์ต่อวัน นั่นหมายความว่า Nissan Leaf ที่มีระยะ
ทางวิ่งสูงสุด 75 ไมล์ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
แต่ถ้าหากรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถขยายความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นก็จะยิ่งรองรับพฤติกรรม
การใช้รถยนต์ของชาวอเมริกันครอบคลุม 98% ของคนทั้งประเทศเลยทีเดียว อาทิ
Chevrolet Bolt ที่มีระยะทางวิ่งสูงสุดและ Tesla Model S/X/3 ที่มีระยะทางวิ่ง
สูงสุดยาวขึ้นไปอีก
แม้รถไฟฟ้าอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับคนรักเดินทางไกล แต่ถ้าพฤติกรรมคนส่วนใหญ่
ฟ้องผลออกมาเช่นนี้ ก็ย่อมมีแนวโน้มที่ผู้คนจะเริ่มยอมรับรถไฟฟ้าเป็นรถยนต์สำหรับ
การใช้งานในชีวิตง่ายดายขึ้น
ที่มา : Carbon Brief