ยักษ์อันดับ 1 ของเมืองไทยและในญี่ปุ่นอย่าง Toyota เริ่มเปิดศึกตลาดรถยนต์ประเดิมปี 2012 ด้วย
การสั่งนำเข้า Toyota Avanza ใหม่ จากโรงงานในอินโดนีเซีย มาจำหน่ายในบ้านเรา ต่อเนื่องเป็น
รุ่นที่ 2 เพียงแต่คราวนี้ ออกจะมาในมาดแปลกหูแปลกตาไปสักหน่อย เพราะไม่จัดงานเปิดตัว แต่
ใช้วิธีส่งภาพข่าว ประชาสัมพันธ์ มาถึงเรา เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2011 บอกกล่าวให้ผู้บริโภครับรู้ว่า
“เราสั่ง รถรุ่นใหม่มาขายแล้วนะ “ภายใต้สโลแกน “Smart in Style เติมสไตล์ล้ำ เต็มสไตล์คุณ”

สาเหตุน่าจะมาจากการเตรียมงานเปิดตัวในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2011 ในงาน Motor Expo
ต้องถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากประเทศไทย ตกอยู่ในภาวะน้ำท่วม บริเวณภาคกลาง ครั้งร้ายแรงที่สุด
ในรอบ 50 ปี จนบรรยากาศการซื้อรถของคนไทย หดหายไปบ้าง อีกทั้ง ยังติดปัญหาการส่งชิ้นส่วน
อะไหล่ ไปยังโรงงาน Toyota ในประเทศต่างๆทั่วโลก จนผลกระทบสืบทอดต่อเนื่องมาถึง Avanza
ที่จำเป็นต้องเลื่อนการปรากฎโฉมในเมืองไทยออกมาเป็นวันนี้ 10 มกราคม 2011 แทน)

Toyota Avanza รุ่นแรก เป็นรถยนต์นั่งแนวใหม่ Compact Multi Purpose Vehicle สร้างขึ้นภายใต้
โครงการ U-IMV  (Under IMV) อันเป็นชื่อย่อที่เข้าใจได้ตรงกันว่า เป็นโครงการพัฒนารถยนต์นั่ง
อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่มีขนาดเล็กกว่า รถยนต์ 7 ที่นั่งจากโครงการ IMV (ซึ่งก็คือ KIJANG รุ่นใหม่
ที่ต้องถูกยกระดับขึ้นมาเป็น INNOVA ในปัจจุบันนั่นเอง) โดยโครงการนี้ Toyota ชวนให้ บริษัทลูก
ของตนซึ่งชำนาญการผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก อย่าง Daihatsu มารับหน้าที่ในฐานะ แม่งานหลัก ของ
โครงการ โดยพวกเขา เลือกใช้พื้นตัวถัง และโครงสร้างวิศวกรรมแบบรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง จาก
Daihatsu Terios ซึ่งต้องถือว่าเป็นแนวทางแปลกๆ ที่ผู้ผลิตจอมลดต้นทุนอย่าง Toyota ตัดสินใจยอม
เปิดไฟเขียวให้มีการพัฒนารถยนต์รุ่นนี้ ในรูปแบบเครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง ถือเป็น
ครั้งแรกในรอบเกิน 10 ปี ที่ Toyota กลับมายอมพัฒนารถยนต์ขนาดเล็กขับเคลื่อนล้อหลังอีกครั้ง

Avanza เผยโฉมครั้งแรกในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนธันวาคม 2003 และในเมื่อ Toyota
Motor Thailand ส่งออก สารพัดรถยนต์นั่ง และรถกระบะที่ประกอบในเมืองไทย ไปขายยัง
ตลาดต่างๆทั่วโลก รวมถึง อินโดนีเซีย แล้ว เพื่อให้ยังคงมิตรภาพกันดีกับทาง P.T. Toyota Astra
และเพื่อใช้ประโยชน์จากเตการค้าเสรีอาเซียน AFTA ให้เต็มที่ Toyota จึงต้องสั่งนำเข้า Avanza
มาขายในเมืองไทย โดยจัดงานเปิดตัวครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2004 โดยมี ดาราหน้าใหม่
จีน มหาสมุทร บุญญะรัตพันธ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ภาพยนตร์โฆษณา ที่ไปถ่ายทำกันถึงเมืองจีน

ตลอดอายุตลาด 7 ปี Avanza โดยได้รับความนิยมจากลูกค้า มียอดขายสะสมจนกระทั่งปัจจุบันอยู่ที่
24,133 คัน (ยอดจำหน่ายตั้งแต่เปิดตัวปี 2004 – เดือนพฤศจิกายน 2011) แม้จะต้องใช้เวลานานกว่า
7 ปีในการทำตัวเลขยอดายได้ถึงระดับนี้ แต่นั่นก็ไม่ทำให้ Toyota Motor Thailand สามารถปฏิเสธ
การทำตลาด Avanza รุ่นใหม่ไปได้

ในเมืองไทย อาจทำยอดขายได้เพียงแค่ที่เห็น แต่ในอินโดนีเซีย Avanza (และฝาแฝดร่วมโครงการ
ในชื่อ Daihatsu Xenia) ควงแขนกันเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ขายดีที่สุดในอินโดนีเซีย
ไปแบบไม่ต้องคิดมาก (เมื่อรวมยอดขายสะสมเข้าด้วยกันตลอดอายุตลาด) เพราะรถถูกออกแบบ
มาให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าชาวอินโดนีเซีย ซึ่งมักจะไปไหนมาไหนกันทั้งครอบครัว
อย่างแท้จริง แถมมีราคาถูก ใครๆก็ซื้อหามาขับใช้งานได้

แต่ในเมื่อ ข้อเสียของรถรุ่นที่แล้ว มีตั้งแต่เรื่องคุณภาพงานประกอบที่ไม่ได้เรือง ทำให้ Toyota
ต้องปรับคุณภาพ รถนำเข้าจากอินโดนีเซียทุกคัน ก่อนส่งมอบรถให้กับดีลเลอร์ รวมทั้งสมรรถนะ
การเกาะถนนขณะแล่นด้วยความเร็วสูงที่ไม่ดีเท่าที่ควร ฯลฯ อีกมากมาย คราวนี้ Toyota เลยพยายาม
แก้จุดบกพร่องเหล่านั้น ให้ลดลงเหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเติมความสมบูรณ์ให้กับ
Avanza ใหม่ ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ลูกค้าหลักของ Avanza ใหม่ ซึ่งยังคงเป็นลูกค้ากลุ่มดั้งเดิม
นั่นคือคนหนุ่มสาว ช่วงอายุประมาณ 25-35 ปี เพิ่งเริ่มต้นชีวิตครอบครัว ใช้เหตุผลในการใช้จ่าย
และมองหาความคุ้มค่าเป็นหลัก มากยิ่งขึ้นกว่ารุ่นเดิม เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายช่วง
เปิดตัว 3 เดือนแรก รวม 500 คัน ให้ได้

รูปลักษณ์ภายนอก ออกแบบขึ้นใหม่ ตัวรถกว้างขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย  โคมไฟท้าย และไฟหน้าแบบ
“Multi Reflector” สอดรับกับ กระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถ ตกแต่งด้วยโครเมี่ยมเงางาม เสริมความ
ดุดัน เน้นอารมณ์สปอร์ต และชวนให้นึกถึง Toyota Camry Hybrid พิกล เปลือกกันชนหน้า-หลัง
และ สเกิร์ตข้าง แนวสปอร์ต สีเดียวกับตัวรถ ไฟตัดหมอกหน้า มีกระจกมองข้างแบบปรับไฟฟ้า
สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก LED…ช่วยเพิ่มความปลอดภัยทางด้านหลัง และมี ชุดใบปัดน้ำฝน
ทั้งด้านหน้า – หลัง…ปรับความเร็วได้ 3 ระดับ พร้อมที่ฉีดน้ำ เพื่อช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้ดีขึ้นขณะ
ขับรถฝ่ากลางสายฝน และโคลนเลน

จุดขายสำคัญของ Avanza อยู่ที่ห้องโดยสาร ซึ่งยังคงแนวทางการออกแบบเดิมไว้ คือเน้นความ
โอ่โถง เพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสาร สามารถเข้าออกได้อย่างง่ายดาย ด้วยรูปแบบการ
จัดวางเบาะที่เหมาะสม และลักษณะของตัวรถที่สูงพอดีๆ เข้า-ออกง่าย และยังคงเหมาะกับการ
พาอากง อาม่า ไปโรงพยาบาลทุกสัปดาห์ เหมือนเช่นเคย
   
เบาะนั่ง 3 แถว สามารถเลื่อนพับ ปรับเอน ได้ เพิ่มพื้นที่สัมภาระ สร้างสรรค์พื้นที่ใช้งานได้
ตามต้องการ – เบาะแถวที่ 2 เลื่อนสไลด์ได้ สามารถพับแบบแยกส่วน 50/50 พร้อมระบบพับ
และยกขึ้นจังหวะเดียว (1-touch tumble) – เบาะแถวที่ 3 พร้อมหมอนรองศีรษะ พนักพิงแบบ
แยกพับ 50/50 พับเก็บไปข้างหน้าได้ด้วยระบบพับและยกขึ้นแบบ 2 จังหวะ

แผงคอนโซลกลาง …ดีไซน์ลาดต่ำ เพื่อทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น พวงมาลัยเปลี่ยนมาใช้
ระบบพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electronic Power Steering) และคราวนี้ ติดตั้งคันโยก ปรับเบาะนั่ง
สูง – ต่ำได้ รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 4.7 เมตร

มาตรวัดความเร็ว และมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด เพิ่มจอแสดงผลข้อมูล
การขับขี่ (Multi Information Display) แสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการขับขี่ อาทิ ระยะทางรวม
อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย และความเร็วเฉลี่ยเป็นต้น

กระจกหน้าต่างแบบปรับไฟฟ้า 4 บาน…สั่งงานง่ายแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส กระจกมองหลังแบบ
ปรับลดแสงสะท้อน…เพิ่มทัศนวิสัยในการมองชุดเครื่องเสียงแบบ 2DIN พร้อมซีดี 1 แผ่น รองรับ
MP3 / WMA…เพลิดเพลิน ตลอดการเดินทาง พร้อมช่องเสียบ AUX / USB / iPod  เครื่องปรับ
อากาศแยกส่วนแบบ 2 ตอน…ให้ความเย็นทั่วถึงตลอดห้องโดยสาร แยกส่วนสำหรับผู้โดยสาร
ตอนหน้า และตอนหลัง ไฟเตือนประตูปิดไม่สนิท / เตือนลืมคาดเข็มขัดนิรภัย

นอกจากนี้ ยังมีช่องเก็บของหลายจุดรอบคัน ทั้งที่คอนโซลกลาง ประตูทั้ง 4 บาน และด้านข้าง
เบาะนั่งแถวที่ 3 มีที่วางขวดน้ำสะดวกสบาย ที่คอนโซลหน้าด้านคนขับ คอนโซลกลาง ประตูทั้ง
4 บาน และด้านข้างเบาะนั่งแถวที่ 3  รวมทั้งสิ้น 14 จุด

ขุมพลังยังคงเป็นบล็อกเดิม รหัส 3SZ-FE บล็อก 4 ส บ DOHC 16 วาล์ว 1,500 ซีซี หัวฉีดอีเล้กโทรนิกส์
EFI พร้อมระบบแปรผันวาล์วที่หัวแคชาฟท์ ฝั่งไอดี VVT-i  ตัวเลขพละกำลังสูงสุด ลดลงนิดหน่อย
เหลือ 101 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 133 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที เพราะ ต้อง
เซ็ตและปรับจูนเครื่องยนต์ให้ผ่านมาตรฐานมลดพิษ Euro-IV ที่จะเริ่มบังคับใช้ในปีหน้า Toyota เคลม
ว่า หลังจากปรับปรุงแล้ว อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจะดีขึ้น (ว่าง่ายๆคือ ประหยัดขึ้น) กว่า Avanza รุ่นเดิม
น้ำมันเชื้อเพลิง เติมได้ทั้งเบนซิน 95 เบนซิน 91 แก็สโศฮอลล์ ทั้ง 95 กับ 91 และ รองรับถึงแก็สโซฮอลล์
ได้ถึงระดับ E20

ส่งกำลังขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ECT พร้อมระบบอิเล็กโทรนิกส์ ให้ความนุ่มนวล
ระหว่างเปลี่ยนเกียร์ (ในรุ่น 1.5S A/T และ 1.5G A/T) และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด (ในรุ่น 1.5E M/T)

ระบบกันสะเทือน ด้านหน้า เป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็น
แบบ โฟร์ลิงค์คอยล์สปริง พร้อมคานควบคุมการบิดตัวแนวขวาง เกาะถนน และทนทานในทุกการขับขี่
ระบบห้ามล้อ ยังคงเป็นแบบหน้าดิสก์ หลังดรัม เหมือนเดิม

ด้านอุปกรณ์ความปลอดภัย มีมาให้เป็นพื้นฐาน ครบถ้วน ทั้ง เข็มขัดนิรภัย ELR ยึด 3 จุด มากถึง
6 ตำแหน่ง และแบบ NR ยึด 2 จุด 1 ตำแหน่ง กลางเบาะหลังแถว 2 โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA
(Global Outstanding Assessment) ออกแบบโดยใช้มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก เพื่อให้มี
ประสิทธิภาพสูงในการดูดซับแรงกระแทกจากการชน และถ่ายเทไปยังส่วนต่างๆ ของตัวรถ เพื่อ
ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร พร้อมโครงสร้างนิรภัยเสริมความแข็งแรง
แกนพวงมาลัยแบบยุบตัวได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ (เหมือนรุ่นก่อน) และเพิ่ม ถุงลมนิรภัย SRS หรือ
Supplemental Restraint System Airbag ที่พวงมาลัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า มาให้

Avanza ใหม่ จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
– 1.5 S เกียร์อัตโนมัติ        ราคา    699,000 บาท
– 1.5 G เกียร์อัตโนมัติ        ราคา    659,000 บาท
– 1.5 E เกียร์ธรรมดา         ราคา    569,000 บาท

และ 3 สี มาตรฐาน…
– White ขาว
– Black Metallic ดำ เมทัลลิก
– Silver Mica Metallic เงิน ไมกา เมทัลลิก

 โชว์รูมผู้จำหน่าย และศูนย์บริการ Toyota กว่า 122 ราย 331 โชว์รูม พร้อมต้อนรับคุณอยู่แล้ว….
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รวมทั้งมีรถยนต์ให้ทดลองขับกันในหลายๆโชว์รูมอีกด้วย

—————————-///————————–