Koenigsegg One เป็นไฮเปอร์คาร์ที่ผลิตขึ้นมาเพียง 7 คันเท่านั้น และ น่าเสียดายว่าหนึ่งในนั้น
พึ่งประสบอุบัติเหตุ ระหว่างที่ทดสอบเพื่อปรับตัวรถให้เข้ากับสนาม Nurburgring หวังทุบสถิติ
เดิมของ Porsche 918 Spyder แต่ดันแหกโค้งเสียก่อน ในวันจันทร์ที่ผ่านมาโดยที่สาเหตุได้รับ
การพิสูจน์แล้วว่า เกิดจากตัวรถขัดข้อง แต่เคราะห์ดีที่คนขับไม่เป็นอะไร

6koencrash

Koenigsegg รายงานว่าอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคนขับกำลังอยู่ในสนามบริเวณ Adenaeur
Forst ขณะที่กำลังใช้ความเร็วราว 170 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ล้อหน้ากลับล็อคเมื่อคนขับเหยียบ
เบรก ทำให้เสียการควบคุมพุ่งเข้าชนรั้ว และ เหินข้ามรั้วไปอีก 70 ฟุต ก่อนที่จะหมดฤทธิ์

ความเสียหายเป็นที่เห็นตามภาพ และ มีไฟไหม้บริเวณท้ายรถด้วย สาเหตุเกิดจากตัวถังสัมผัส
กับท่อไอเสียแต่ เคราะห์ดีที่คนขับคว้าถังดับเพลิงในรถมาดับไฟทัน

Koenigsegg-One1-Crashes-on-Nurburgring-Screenshot

หลังจากที่กู้ซากแล้ว ตัวรถถูกส่งกลับโรงงานในประเทศสวีเดน เพื่อหาสาเหตุ และ พบว่าเซนเซอร์
เบรก ABS ของล้อหน้าขัดข้อง ซึ่งตรงกับหลักฐานที่พบบนสนามแข่งที่มีรอยเบรกเป็นระยะยาวของ
Koenigsegg ปรากฏอยู่อีกด้วย ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญแจ้งว่ามีไฟเตือนระบบเบรกขัดข้องติดอยู่บนหน้าปัด
แต่คนขับคงไม่เห็นเนื่องจากกำลังใจจดใจจ่อกับการทำเวลาอยู่ และ ก่อนที่จะมาถึงโค้งที่เกิดอุบัติเหตุ
คนขับไม่น่าจะมีโอกาสที่ได้เหยียบเบรก จนถึงระดับที่ ABS ทำงานซึ่งกว่าจะรู้ตัวรถก็เข้าข้างทางไปแล้ว

wrecked-koenigsegg-one1-being-analyzed-at-factory-in-ngelholm-sweden_100558773_m

แม้ว่าด้านนอกจะได้รับความเสียหายอย่างหนักแต่ Koenigsegg ยืนยันแล้วว่าพวกเขาจะซ่อม One
คันนี้ อย่างแน่นอนพร้อมตั้งเป้าว่าจะกลับมาทุบสถิติเวลาต่อรอบที่ดีที่สุด ณ สนาม Nurburgring
ให้จงได้คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนในการทำให้ไฮเปอร์คาร์คันนี้ กลับมาวิ่งได้อีกครั้ง
น่าติดตามต่อว่าพวกเขาจะสามารถทำได้ดังที่ตั้งใจหรือไม่

wrecked-koenigsegg-one1-being-analyzed-at-factory-in-ngelholm-sweden_100558774_l

ขุมพลังของ Koenigsegg One เป็นเบนซิน 5.0 ลิตร V8 เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 1,359 แรงม้า (PS)
ที่ 7,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 139.77 กก-ม. (1,371 นิวตันเมตร) ที่ 6,000 รอบ/นาที ทำงาน
ร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อหลัง  ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงภายใน
2.5 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 440 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ ใช้เวลาเพียง 20 วินาทีเท่านั้น
ในการเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึงความเร็ว 400 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ที่มา : motortrend, motorauthority