รถยนต์คลาสสิก เป็นที่ต้องตาต้องใจของใครหลายๆคน แต่ปัญหาใหญ่อีกหนึ่งอย่าง นอกจาก
เก็บเงินซื้อ คือหาอู่ หรือ ศูนย์บริการที่ซ่อมแบบไว้ใจได้ยาก วันนี้เราจึงขอนำเสนอรายละเอียด
ของผู้ผลิตรถยนต์ 7 แบรนด์ ที่ไม่ได้ให้บริการซ่อมแซมแต่รถใหม่เท่านั้น แต่ยังให้บริการรถ
คลาสสิก ตั้งแต่จัดหาอะไหล่จนถึงฟื้นฟูเต็มระบบ ซึ่งจะมีใครบ้างนั้นตามไปชมได้เลย

Aston Martin Works

ปีที่ก่อตั้ง  :  1954
จำนวนรถยนต์ที่ซ่อมไป  :  400
ขอบเขตการให้บริการ  :  ทำอะไหล่ขึ้นมาใหม่, สแกน 3D, ออกใบรับรอง, จำหน่ายรถยนต์, ทดสอบ
ผลงานล่าสุด  :  1963 DB 4 Series 5 Vantage Convertible (51 ล้านบาท)

สำนักงานนั้นตั้งอยู่ที่โรงงานเก่าใกล้กับ Newport Pagnell สำหรับลูกค้าที่ส่งรถไปฟื้นฟูเต็มรูปแบบ
นั้นจะใช้เวลาราว 2 ปี ต่อรถยนต์ 1 คัน สำหรับอัตราค่าบริการออกใบรับรองเริ่มต้นที่ 200,000 บาท
ผ่านกระบวนการตรวจสอบ 4 ขั้นตอน และ ถ้ายอมจ่ายอีก 3 แสนบาท ก็จะได้รับบริการสแกนด้วย
คอมพิวเตอร์เพื่อประเมินสภาพรถในจุดที่มองไม่เห็นอีกด้วย โดยที่จะมีคะแนนสำหรับการประเมิน
สภาพรถยนต์ 4 ระดับตั้งแต่ Platinum, Gold, Silver, และ Bronze

BMW Classic Center

ปีที่ก่อตั้ง  :  2010
จำนวนรถยนต์ที่ซ่อมไป  :  12
ขอบเขตการให้บริการ  :  ออกใบรับรอง, ทดสอบ, จำหน่ายรถยนต์, ให้เช่ารถยนต์
ผลงานล่าสุด  :  –

แรกเริ่ม ศูนย์แห่งนี้จะฟื้นฟูรถยนต์ของพิพิธภัณฑ์ของตนเท่านั้น ก่อนที่จะเปิดรับซ่อมแซมรถยนต์
ของลูกค้าในภายหลัง ด้วยคลังอะไหล่ที่มีชิ้นส่วนรถยนต์ตั้งแต่ Isetta รุ่นปี 1955 และ ยังรับฟื้นฟู
รถจักรยานยนต์อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการให้เช่ารถยนต์คลาสสิก ซึ่งมีรถยนต์มากถึง 400 คัน
และ มอเตอร์ไซค์ อีก 170 คัน พร้อมให้บริการ

Ferrari Classiche

ปีที่ก่อตั้ง  :  2006
จำนวนรถยนต์ที่ซ่อมไป  :  90
ขอบเขตการให้บริการ  :  ทำอะไหล่ขึ้นมาใหม่, สแกน 3D, ออกใบรับรองพร้อมคู่มือประจำรถ
ผลงานล่าสุด  :  250 GTO (17 ล้านบาทซึ่งเป็นค่าซ่อมอย่างเดียว)

บริหารและควบคุยโดย Piero Ferrari ผู้ที่เป็นทายาทคนสุดท้ายของ Enzo ที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยคิดค่า
ฟื้นฟูสภาพรถตั้งแต่ 3,500,000 – 17,000,000 บาท ตามสภาพรถยนต์ สำหรับค่าออกใบรับรอง
อยู่ที่ 200,000 บาท ซึ่งใช้เวลาราว 6 เดือน ในการตรวจสอบรถยนต์ สำหรับที่ตั้งนั้นอยู่ใน Maranello
ของประเทศอิตาลี

Jaguar Land Rover Classic

ปีที่ก่อตั้ง  :  2016
จำนวนรถยนต์ที่ซ่อมไป  :  8
ขอบเขตการให้บริการ  :  ทำอะไหล่ขึ้นมาใหม่, ทำเครื่องมือขึ้นใหม่, สร้างรถใหม่ทั้งคัน
ผลงานล่าสุด  :  Jaguar E-Type (48 ล้านบาท)

ผลงานการฟื้นฟูรถยนต์ของที่นี่ ยังไม่โดดเด่นนัก แต่จะเด่นในการทำรถยนต์ Classic ขึ้นมาใหม่
มากกว่ากับผลงาน Land Rover Series 1 จำนวน 25 คัน และ ขายออกไปหมดแล้ว สำหรับแผนต่อไป
คือสร้างรุ่น Series 2 และ 3 ขึ้นมาอีก พร้อมตั้งเป้าให้บริการชิ้นส่วนอะไหล่ตลอดอายุการใช้งาน และ
ตอนนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับ supplier

Lamborghini PoloStorico

ปีที่ก่อตั้ง  :  2015
จำนวนรถยนต์ที่ซ่อมไป  :  2
ขอบเขตการให้บริการ  :  ทำอะไหล่ขึ้นมาใหม่, ออกใบรับรอง
ผลงานล่าสุด  :  1971 Miura P400 SV (11 ล้านบาทซึ่งเป็นค่าซ่อมอย่างเดียว)

ค่าออกใบรับรองนั้นเริ่มต้นที่ 38,000 บาท จนถึง 234,000 บาท ซึ่งในตัวแพงสุด จะมีการถอดชิ้นส่วน
ของรถยนต์เพื่อตรวจสอบสภาพด้วย สำหรับเจ้าของกระทิงดุ ที่อยากฟื้นฟูสภาพรถยนต์ ต้องเตรียมเงิน
ไว้อย่างต่ำ 6,900,000 บาท ซึ่งการันตีคุณภาพด้วยปริมาณอะไหล่, เครื่องไม้เครื่องมือ, และข้อมูล
อันเกี่ยวข้องกับตัวรถ ที่เก็บเอาไว้มีมูลค่ามากถึง 1,957 ล้านบาท

Mercedes-Benz Classic Center

ปีที่ก่อตั้ง  :  2006
จำนวนรถยนต์ที่ซ่อมไป  :  29
ขอบเขตการให้บริการ  :  ทำอะไหล่ขึ้นมาใหม่, จำหน่ายรถยนต์
ผลงานล่าสุด  :  1971 280 SL (9.4 ล้านบาท)

รายนี้มีผู้เชี่ยวชาญประจำศูนย์อยู่มากถึง 22 คน และ ยังมีพนักงาน outsource สำหรับเหตุการณ์
เฉพาะกิจด้วย พร้อมให้บริการฟื้นฟูรถยนต์ตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลก ด้วยอะไหล่มากกว่า 50,000
รายการ และ ถ้าหากไม่มีของก็พร้อมจะสร้างอะไหล่ให้ใหม่ทันที สำหรับเวลาที่ต้องใช้นั้นอยู่ที่
6-12 เดือน ต่อคัน

Porsche Classic

ปีที่ก่อตั้ง  :  2015
จำนวนรถยนต์ที่ซ่อมไป  :  30
ขอบเขตการให้บริการ  :  ฟื้นฟูรถยนต์, ให้บริการซ่อมแซมทั่วไป
ผลงานล่าสุด  :  n/a

ตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของ Porsche ที่ Atlanta ให้บริการซ่อมแซม ทั้งเครื่องยนต์ และ ภายในที่
ศูนย์บริการนี้ แต่ถ้าเป็นงานสี และ ตัวถัง จะส่งรถยนต์ไป Stuttgart เพื่อเข้าโรงงานประกอบรถยนต์
และ เข้าสู่กระบวนการผลิตเหมือนรถใหม่ สนนราคาค่าแรงเป็นชั่วโมง เริ่มต้นที่ 5,418 บาท/ชั่วโมง
โดยที่ผู้ใช้บริการทุกคนจะได้รับน้ำมันเครื่องในกระป๋อง ทรงเรโทรสูตรพิเศษ ที่เหมาะกับรถคลาสสิก
กลับบ้านไปคนละ 1 กระป๋อง

.

ที่มา : caranddriver