ชื่อ Perodua คงไม่มีความหมายอะไรนักในสายตาชาวไทย เพราะมันไม่มีขายนั่นเอง
แต่ถ้าเป็นคนชาวมาเลย์เซียชื่อนี้ก็คงคล้าย Toyota บ้านเรา แต่ต่างกันตรงที่มันเป็น
รถประจำชาติมาเลย์เซียที่สอดไส้งานวิศวกรรม Daihatsu ลงไปจึงทำให้แบรนด์ Perodua
ดูดีมากทั้งราคาขายก็ไม่แพง, คุณภาพดีไว้ใจได้ในแบบรถญี่ปุ่นแถม Daihatsu ยังอยู่
ร่มใต้ชายคา Toyota ก็เสมือนซื้อ Perodua ได้รถ Toyota

เห็น Perodua ขายดีแบบแจกฟรีในตลาดมาเลย์เซียอย่างนั้นเชื่อหรือไม่ว่า Perodua
ยังขาดแคลนรถซีดานขนาดเล็กราคาประหยัดทั้งที่ตลาดรถซีดานเล็กมันเป็นตลาดที่มา
แรงมากในมาเลย์เซีย

ว่าแล้ว Perodua จึงซุ่มพัฒนา Bezza รถซีดานเล็กที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ Perodua
Axia, Toyota Agya, Daihatsu Ayla แต่ถูกพัฒนาจนออกแบบแทบจะเป็นรถคนละคันกัน
เลยเพราะ Perodua Bezza นั้นดูดีกว่าพวก Agya, Ayla หลายขุมยิ่งนัก

Paultan.org ได้รับเกียรติจาก Perodua เชิญไปเยี่ยมชมศูนย์พัฒนาและวิจัยและยังยังได้
ชมรถคันจริงของ Perodua Bezza ก่อนใคร

Perodua Bezza เป็นรถยนต์ที่ถูกออกแบบในประเทศมาเลย์เซียทั้งคันโดยมีโจทย์สำคัญ
คือทำอย่างไรให้ Perodua Axia เวอร์ชันซีดานดูสวยสมส่วนกว่ารถแฮทช์แบคต่อตูดให้ได้
มากที่สุดภายใต้โครงสร้างตัวถังที่ค่อนข้างสูงโย่งและประดับด้วยล้อจิ๋วขนาด 14 นิ้ว

ผลลัพธ์ก็เลยออกมาเป็นรถซีดานขนาด A-Segment ที่มีสัดส่วนและรูปทรงใกล้เคียงกับ
Toyota Soluna Vios และ Vios เจเนเรชั่นที่แล้วมาผสมกัน ขณะเดียวกันก็ออกแบบด้าน
หน้าใหม่ให้ดูสวยหรูใกล้เคียงกับรถยนต์ Toyota บางรุ่น ส่วนบั้นท้ายก็จะถูกออกแบบมา
อย่างเรียบง่าย ลดความเลี่ยนด้วยไฟเบรก LED แบบลายเส้น

ภายในห้องโดยสารออกแบบใหม่หมดดูมีราคาค่าตัวและดูมีคุณภาพกว่า Perodua Axia
มากมายยิ่งนัก พร้อมหน้าจอสัมผัส SmartLink

ตัวรถจะมีความยาวแค่เพียง 4,150 มิลลิเมตร กว้างแค่ 1,620 มิลลิเมตร สูง 1,510 มิลลิเมตร
มีความยาวฐานล้อ 2,455 มิลลิเมตร และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานแค่ 0.28

จุดขายสำคัญที่น่าประหลาดใจคือมันมีเนื้อที่ห้องสัมภาระท้ายที่จุดถึง 508 ลิตรมากกว่า
Proton Saga คู่แข่งโดยตรงถึง 100 ลิตรและมีขนาดเทียบเคียงเท่ากับ Toyota Vios เลย
พร้อมทั้งยังมีเนื้อที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางพอประมาณ

เบาะหลังปรับพับลงเพื่อเพิ่มเนื้อที่ห้องสัมภาระไม่ได้แต่เบาะหลังสามารถปรับเอนให้มากกว่า
ตำแหน่งเดิมคล้ายกับ Honda City ได้

เครื่องยนต์กลไกมี 2 ขนาดได้แก่ 1KR-VE 1.0 ลิตร ย้อนกลับไปใช้ระบบวาล์วแปรผัน VVT-I
มีอัตรากำลังอัดสูง, ลดการฝืดเคืองและปรับปรุงระบบการเผาไหม้ ให้กำลัง 67 แรงม้าที่
6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 91 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที

เครื่องยนต์ 1NR-VE 1.3 ลิตร Dual VVT-I ให้กำลัง 94 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิด 121 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีที่สุด 22 กิโลเมตรต่อลิตรในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะและ
21.7 กิโลเมตรต่อลิตรในรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ สำหรับเครื่อง 1.3 ลิตร

ทุกรุ่นติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ABS, Isofix ส่วนระบบ VSC และ Hill Start จะมีใน
1.3 Advance

ที่มา : Paultan