ยุคนี้เป็นยุคแห่งความเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างรวดเร็วจนทุกคนคาดไม่ถึง ใครที่ปรับตัวได้ช้าก็จะถูกกลืนไปกับยุคนั้น ทุกเรื่องราวของความผิดพลาดในวงการรถยนต์มักมีจุดจบด้วยการปิดตัวแบรนด์รถยนต์อันเคยเป็นเกียรติและประวัติมาแล้วนักต่อนัก
สำหรับแบรนด์ Saab ณ ขณะนี้ยังไม่น่าจะเรียกว่าเป็นแบรนด์ที่เข้าสู่สภาวะฝังกลบเหมือนแบรนด์รถยนต์ Pontiac แต่อย่างใด แต่ก็ใช่ว่า Saab จะมีอนาคตที่ราบรื่นนักเพราะ Saab โดนคำสั่งศาลล้มละลายหลังจาก GM ไม่อนุญาตให้รับเงินทุนช่วยเหลือหรือการซื้อขายกิจการกับบริษัทเอกชนจีนเลย
Mr. Victor Muller ซีอีโอแห่ง Swedish Automobile ได้ยื่นคำร้องล้มละลายต่อศาลตะวันตกเฉียงใต้ ประเทศสวีเดนหลังจากที่เขาพยายามพลิกฟื้นแบรนด์ Saab มานานถึง 2 ปีแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จตามที่ใฝ่ฝัน ดูเหมือน Mr.Muller เองก็น่าผิดหวังมากที่ GM บล๊อกการทำธุรกรรมทางการเงินกับบริษัทเอกชนจากจีนจนเคยเอ่ยเปรียบเปรยแบรนด์ Saab ระหว่างประชุมผ่าน Webcast ว่าเป็นเล็บสวย ๆ ชิ้นสุดท้ายที่อยู่ในโลงศพ
ขณะเดียวกันเมื่อสื่อมวลชนสัมภาษณ์ Mr. Fredrik Almqvist อายุ 36 ปี พนักงาน Swedish Automobile ในไลน์โรงงานผลิตรถยนต์ Saab ก็โพล่งความรู้สึกว่า มันเป็นของขวัญคริสต์มาสที่ไม่น่าพอใจมากที่สุดเท่าที่เขาเคยจินตนาการ
ผู้เชี่ยวชาญในสายอุตสาหกรรมยานยนต์ก็พากันวิเคราะห์ว่า Swedish Automobile อาจจะแยกทรัพย์สินขายออกไปในระหว่างหลังรับคำสั่งล้มละลาย รวมถึงสำนักงาน Trollhattan ที่มีพนักงานจำนวนถึง 3,000 ราย ก็ต้องรอผู้ที่แข็งแกร่งกว่ากว้านซื้อไป
Mr.Victor Muller เคยเข้ามาซื้อกิจการ Saab ในช่วงที่ GM กำลังจะยุบแบรนด์ที่ไม่ทำกำไรออกเพื่อความอยูรอดเมื่อปี 2009 โดยคาดหวังว่า Saab น่าจะกลับมามีชีวิตชีวาและสามารถใช้ทรัพยากรบางอย่างจาก Saab เพื่อสร้างแต้มต่อให้กับแบรนด์รถสปอร์ต Spyker ที่ตนเองครอบครองอยู่เช่นกัน
ระหว่างดำเนินธุรกิจ Mr.Muller ก็ประสบปัญหาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดแคลนเงินทุนเพื่อช่วยต่ออายุให้ Saab ยืนอยู่บนลำแข้งระยะยาวจนต้องขายสินทรัพย์, เครื่องมือการผลิตรถยนต์ Saab รุ่นเก่าไปยังพ่อค้ารถยนต์ในจีนบางส่วน เมื่อเข้าตาจนมุมก็ตัดสินใจขายหุ้นมากกว่าครึ่งหนึ่งให้กับ Youngman จนกระทั่ง GM ผู้ถือหุ้นส่วนหนึ่งใน Saab บล๊อกธุรกรรมการซื้อขายกิจการทั้งหมดจนเป็นเหตุให้ศาลสั่งล้มละลายเพื่อแก้ไขปัญหาครั้งสุดท้าย