ในที่สุดก็เผยภาพออกมาอย่างเป็นทางการเสียที สำหรับ Toyota C-HR : B-Crossover
SubCompact SUV (B-SUV) ที่ยังเป็นปริศนามาโดยตลอดว่าหน้าตาภายใน
ห้องโดยสารจะออกมาแบบไหนกัน
เช้าวันที่ 28 มิถุนายน (ตามเวลาประเทศไทย) ภาพภายในห้องโดยสาร เกือบจะทั้งหมด
ได้ถูกปล่อยออกมาเรียบร้อยแล้ว
แผงแดชบอร์ดนั้น การจัดวางตำแหน่งจะต่างจาก Toyota Prius ที่ใช้ Platform
Toyota New Global Architecture (TNGA) เหมือนกัน อย่างสิ้นเชิง มีจอกลาง
วางในลักษณะรถยนต์ยุคใหม่ๆ คือเป็นจอลอยตัวขึ้นมา คล้ายเอา Tablet หรือ iPad
มาวางไว้ แต่ถูกลดทอนขอบต่างๆ ให้มีความเชื่อมโยง ต่อเนื่องกับส่วนอื่นๆของรถ
ด้วยการลากเส้นตกแต่ง ยาวจากประตูฝั่งซ้าย ไปจรดที่ประตูฝั่งขวา
ในภาพที่เห็นจะเป็นเวอร์ชั่น Hybrid ซึ่งจะถูกตกแต่งด้วยเส้นสีฟ้า คาดว่ารุ่นอื่นๆ
ที่เป็นเครื่องยนต์ปกติ หรือ เครื่องยนต์เทอร์โบจะมีการใช้วัสดุที่ต่างกันออกไป
เช่น สีเงินเมทัลลิคอย่างแน่นอน
นอกจากนี้บริเวณจอกลางยังมีการแทรกนาฬิกาเล็กๆเอาไว้ ที่มุมล่างด้านขวา
โดยวัสดุตกแต่งแผชแดชบอร์ดหลักจะใช้ สีดำ Piano Black ตามสมัยนิยม
ชุดมาตรวัด 2 วง ขนาบข้าง แทรกด้วยจอ MID กลางแบบสี TFT เหมือนกับ
รถ Toyota รุ่นใหม่ในปัจจุบันของบ้านเรา ด้านซ้ายเวอร์ชั่น Hybrid จะเป็น
มาตรวัดมอเตอร์ไฟฟ้า และ แบตเตอรี่ ส่วนเวอร์ชั่นปกติ น่าจะเป็นตำแหน่ง
ที่อยู่ของมาตรวัดรอบเครื่องยนต์
วงด้านขวาจะเป็นมาตรวัดความเร็ว เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ว่า มาตรวัดอุณหภูมิ
เครื่องยนต์ยังคงมีอยู่ ต่างจากรถในปัจจุบันที่จะมีเพียงแค่ไฟแจ้งเตือน
ระบบปรับอากาศ เป็นแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone พร้อม
หน้าจอแสดงผล แบบดิจิตอลสีฟ้า ตรงกลาง
โทนสีหลักภายในห้องโดยสาร จะใช้สีน้ำตาลเข้มออกแดง ในช่วงครึ่งคันรถส่วนบน
ส่วนอื่นๆทั้งคันรถจะใช้โทนสีดำ บรรยากาศภายในเน้นโทนสปอร์ต แต่แอบมีกลิ่นอาย
ของความหรูเข้ามานิดๆจากการใช้โทนสี
บริเวณครึ่งบนของแดชบอร์ดหน้ามีการเดินตะเข็บด้ายจริง การวางตำแหน่งของหน้าจอ
และ แผงควบคุมต่างๆเอาใจคนขับ ด้วยการเอียงมุมองศา เข้ามาหาฝั่งผู้ขับขี่มากกว่า
รถทั่วไป
เบาะนั่งทรงสปอร์ตดูแล้วน่าจะค่อนข้างกระชับอยู่ไม่น้อย มีการใช้ลวดลายเดินตะเข็บ
ทั้งตัวเบาะ ส่วนของเกียร์จะใช้เป็นแบบถุงหุ้ม ถ้าสังเกตดีๆ เราจะเห็นปุ่มเบรกมือไฟฟ้า
รวมถึงช่องวางแก้วน้ำ และ แผงประตูส่วนล่าง จะมีการใช้ไฟ Ambient Light มาเสริม
บรรยากาศเข้าไปด้วย
ที่ยังคงเป็นปริศนากันต่อไปอยู่ คือ ห้องโดยสารด้านหลัง ว่ามีพื้นที่เป็นอย่างไร
สำหรับภายนอกนั้น มิติตัวถังของ Toyota C-HR มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ยาว x กว้าง x สูง : 4,350 x 1,795 x 1,565 มิลลิเมตร
(รุ่น Hybrid สูง 1,555 มิลลิเมตร) ระยะฐานล้อ : 2,640 มิลลิเมตร
โดยมีคู่แข่งชกตรงรุ่นคือ Honda HR-V / Mazda CX-3 / Nissan Juke
และ Ford Ecosport (สำหรับตลาดในประเทศไทย)
เครื่องยนต์ของ C-HR สำหรับตลาดโลก Toyota Global ได้ประกาศออกมา
แล้วว่าจะมีด้วยกัน 4 เครื่องยนต์ ได้แก่
– เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร Turbo รหัส 8NR-FTS DOHC 4 สูบแถวเรียง
16 วาล์ว Direct Injection D4 VVT-iw (intake) / VVT-i (exhaust)
ขนาด 1.2 ลิตร 1,197 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 71.5 x 74.5 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 กำลังสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 185 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์
ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT
– เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร Hybrid รหัส 2ZR-FXE DOHC 4 สูบแถวเรียง
Atkinson cycle 16 วาล์ว VVT-i ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก
80.5 x 88.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.04 : 1 กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า PERMANENT
MAGNET SYNCHRONOUS ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่แบบ Ni-MH ( Nickel metal Hydride ) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ CVT
รวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าให้ กำลังสูงสุด 122 แรงม้า
– เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร NA จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT
กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิด 193 นิวตันเมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที
(ยังไม่มีรายละเอียดแน่ชัดว่าจะเป็นเครื่องยนต์บล๊อกใด)
– เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ (สำหรับตลาดรัสเซียเท่านั้น)
ส่วนประเทศไทยมีแผนที่จะขึ้นสายการผลิตเช่นเดียวกัน กำหนดการเบื้องต้น
คาดว่าพร้อมผลิตและจำหน่ายในช่วงต้นปี 2018 นี้ ก่อนหน้านั้นอาจมีการมาโชว์ตัว
ในงาน Motor Expo 2017 ช่วงปลายปี รายละเอียดเครื่องยนต์ และ ระบบส่งกำลัง
ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นบล๊อกใด
เหตุที่ผลิตและประกอบในไทยต้องใช้ระยะเวลา เนื่องจากเป็น Platform ใหม่
Toyota New Global Architecture (TNGA) ต้องมีการวางแผนไลน์ประกอบใหม่
เพราะพื้นฐานใหม่นี้ ไม่อิงกับรถรุ่นที่มีอยู่ใน line-up เดิมทั้งสิ้น
ที่มาภาพ : netcarshow