MINI Vision Next 100 บอกตัวตนของ Mini ยุคดิจิตอล

ผู้เขียนแทบจะไปไม่เป็นเมื่อได้เห็นรถต้นแบบ Mini และ Rolls-Royce Vision Next 100
เพราะรูปร่างรูปทรงดูจะเข้าใจยากเมื่อเห็นเพียงแค่ครั้งแรก แต่ถ้าลองศึกษาและลงลึก
ไปจริง ๆ ก็จะพบว่าทั้งคู่ต่างก็ต้องค้นหาโจทย์ใหม่ที่จะทำให้แบรนด์ Mini และ
Rolls-Royce ยังคงรักษาภาพพจน์ที่ทุกคนจดจำภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี, มาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมจากรัฐบาลทั่วโลกและพฤติกรรม
ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

Mini Vision Next 100 หนึ่งในซีรีส์รถต้นแบบ ‘Vision Next’ ภายใต้ BMW Group
ได้เผยออกมาให้ประชาชนได้เห็นวิสัยทัศน์ใหม่ของแบรนด์ Mini

รถต้นแบบคันนี้จะสะท้อนแนวคิด Mini ทุกคันก็คือ Mini ของฉันสอดรับกระแส Car
Sharing ที่จะเป็นกระแสการคมนาคมในอนาคต, ลูกค้า/ผู้ใช้ Mini สามารถเลือกการ
ตกแต่งตามสไตล์ของแต่ละคน, ระบบขับขี่อัตโนมัติสมบูรณ์แบบรองรับการเดินทาง
24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์โดยที่ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการขับขี่ตามรสนิยม, ความชื่นชอบ
และความสนใจ

ตัวถังรถเน้นพื้นผิวสีเงินเปรียบเสมือนเป็นผ้าใบสีเงินที่สามารถสะท้อนสีหรือลายแพทเทิร์น
ส่วนภายในห้องโดยสารก็สามารถเปลี่ยนสีตามค่าการใช้งาน

การวางเลย์เอาท์ตัวรถจะแปลกแตกต่างจาก Mini ที่วางจำหน่ายจริงมากคือขุมพลัง
จะติดตั้งอยู่บั้นท้ายรถแล้วปล่อยพื้นที่โล่งด้านหน้าซึ่งมีเนื้อที่ติดตั้งหน้าจอแบบแนวนอน
แคบ, หน้าจอมาตรวัดและโครงแผงแดชบอร์ดสไตล์ Minimalism, พร้อมเนื้อที่กระจก
บังลมหน้าขนาดใหญ่มาก ๆ ช่วยทำให้ห้องโดยสารดูปลอดโปร่งมาก

Mini Vision Next 100 สามารถตอบสนองการขับขี่ที่ยืดหยุ่นสุด ๆ ถ้าหากผู้ขับขี่
อยากจะลองของในโหมด Mini Cooper Works พวงมาลัยก็จะเลื่อนมาตำแหน่ง
ตรงกลางแผงแดชบอร์ดพร้อม ๆ กับแป้นเหยียบ หรือผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ว่าจะ
ขับฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวา

หรือถ้าขี้เกียจขับก็ปล่อยให้ระบบขับขี่อัตโนมัติ Mini of The Future จัดการด้วยตัว
ของมันเองโดยไม่ต้องกังวลกับการชาร์จพลังงานหรือทำความสะอาดรถ