ดีไซน์ด้านหน้าถูกปรับให้โฉบเฉี่ยวมากขึ้น จากเดิมที่ Toyota Corolla Altis รุ่นปัจจุบัน
เริ่มมีความสปอร์ต ก็กลายเป็นว่ารุ่น Minorchange ถูกปรับโฉมให้ดูสปอร์ตทันสมัยขึ้น
กว่าเดิมเข้าไปอีก ด้วยการการออกแบบด้านหน้าที่ดูเล็กเพรียวคล้าย กับ Toyota Auris
Minorchange

altis_02 altis_01

ด้านหน้าของ Corolla Altis Minorchange ปรับให้เพรียวบางมากขึ้น พื้นที่กระจังหน้าเล็กลง
โดยรับกับชุดไฟหน้าใหม่ ไฟ Projector Lens พร้อมแถบไฟด้านล่างที่คาดว่าน่าจะเป็น LED
Daytime Running Lights แบบ Tube รูปทรงตัว L ที่มุมซ้าย-ขวา

เส้นสายด้านหน้าลากจากกระจังหน้ายาวไปจรดที่มุมของชุดไฟหน้าทั้ง 2 ข้าง ทางด้านกันชนหน้า
เพิ่มแถบที่ลากยาวจากช่องดักลมสีเทาเมทัลลิค รับกับไฟตัดหมอกพร้อมแถบแนวตั้งที่ปลายกันชน

altis_exterior_01 altis_exterior_02 altis_exterior_03

ล้ออัลลอยลายใหม่ ที่มาแนวใบพัดตามสมัยนิยม ทำสีไฮไลท์เทาเมทัลลิค ด้านท้ายรายละเอียด
การเปลี่ยนแปลงไม่มากเท่าด้านหน้ารถ ชุดไฟท้ายทรงเดิม แต่เปลี่ยนรายละเอียดในตัวโคมใหม่
ให้ทันสมัย เตะตามากขึ้น ด้วยแถบไฟหรี่ท้าย LED ลากยาว พร้อมดันชุดไฟเลี้ยว และไฟถอย
ให้อยู่ชิดด้านบนสุด คาดกลางด้วยเส้นโครเมียมที่ต่อเนื่องมาจากคิ้วฝากระโปรงท้าย ที่ลดทอน
ขนาดให้เล็กลง ดูมีระดับมากขึ้น

altis_interior_01

ภายในห้องโดยสาร มีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย เช่นเดียวกับภายนอก บริเวณแผงแดชบอร์ด
มีการเปลี่ยนหน้าจอระบบเครื่องเสียงใหม่ เป็นชุดเครื่องเสียงคล้ายกันกับ Fortuner / Hilux Revo
หน้าจอระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว พร้อมรองรับระบบ Toyota Connect

นอกจากนี้บริเวณชุดควบคุมระบบปรับอากาศถูกดีไซน์ใหม่ เป็นปุ่มกดแบบสี่เหลี่ยมทั้งหมด ขนาบอยู่
ข้างจอแสดงข้อมูลตัวหนังสือสีฟ้า โดยระบบปรับอากาศแบบใหม่จะสามารถแยกปรับอุณหภูมิอิสระ
ซ้าย-ขวา Dual Zone ได้ อีกทั้งบริเวณช่องแอร์ยังมีการปรับรายละเอียดเล็กน้อย ด้านซ้าย-ขวา
จากเดิมเป็นสี่เหลี่ยมจะเปลี่ยนเป็นวงกลม

ช่องแอร์กลางเหมือนจะคล้ายเดิม แต่มีการเพิ่มลูกกลิ้งเลื่อนเปิด-ปิดได้ ทำให้นาฬิกาที่แต่เดิมอยู่
ระหว่างกลาง ถูกย้ายมาอยู่ตำแหน่งใหม่ ข้างชุดหน้าจอเครื่องเสียงแทน ภาพรวมของการปรับชุด
ควบคุมกลางใหม่ ทำให้เส้นโครเมียมที่ตกแต่งเดิมนั้น ถูกลากเส้นสายใหม่ด้วยเช่นกัน

altis_interior_02

ถัดลงมาที่คอนโซลส่วนล่าง มีการเพิ่มฝาปิดช่องเก็บของมาให้ ซึ่งเป็นที่อยู่ของ ช่องเชื่อมต่อ
AUX / USB รวมถึงช่องชาร์จไฟ 12V ดูเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น ฐานเกียร์ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีการ
ปรับเปลี่ยนใหม่  นอกจากนี้ยังมีการบุนุ่มส่วนต่างๆของแผงแดชบอร์ด และ คอนโซลกลาง
เพิ่มเติม รวมถึงเดินตะเข็บด้ายจริงมาให้ด้วย

ไฮไลต์สำคัญ คือ การติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Toyota Safety Sense ประกอบไปด้วย
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (Pre-Collision System : PCS),
ระบบเตือนการเปลี่ยน (Lane Departure Alert : LDA)
และระบบเปิด-ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High Beam)

ทางด้านเครื่องยนต์คาดว่าคงไม่มีการปรับปรุงใหม่ สำหรับในประเทศไทยคงจะได้เห็น
รุ่น Minorchange นี้อย่างเร็วปลายปี 2016 นี้ อย่างช้าที่สุดต้นปีหน้า 2017 เพื่อสร้างความ
สดใหม่ สู้กับ Honda Civic FC และ Mazda 3 Minorchange ที่จ่อคิวเปิดตัวปลายปีเช่นกัน

 

ที่มา : Toyota Turkey