ความพยายามของ Volkswagen ในการเข้าอาณาจักรรถยนต์ระดับบนดูไม่ค่อยประสบความสำเร็จตามที่พวกเขาคาดหวังนัก อาจเป็นเพราะตัวแบรนด์ Volkswagen มันมีความเป็นแมสอยู่สูงมาก ๆ แค่ชื่อก็บอกแล้วว่า “รถของประชาชน” ก็ต้องนึกภาพรถยนต์ธรรมดา ๆ มากกว่าจะเป็นรถหรูอยู่แล้ว
ความล้มเหลวแรกคือการเปิดตัว Volkswagen Bora พยายามยกระดับให้เป็นรถคอมแพคท์ที่สามารถเทียบชั้นกับ BMW 3-Series ในปี 1999 แต่ด้วยความเป็นรถซีดานที่ชาวยุโรปไม่ค่อยมองกันและตัวรถที่พัฒนาขึ้นจาก Golf ทำให้รถรุ่นนี้ไม่ได้โด่งดังในบ้านเกิดมากนัก
และความล้มเหลวครั้งล่าสุดกับ Volkswagen Phaeton เกิดมาเพื่อประชันกับ Mercedes-Benz S-Class ในปี 2002 ใช้วิธีทำตลาดแบบ Super Exclusive สร้างความแตกต่างด้วยการพาลูกค้าที่สั่งจอง Phaeton ไปเยี่ยมชมรถของตัวเองในสายการผลิตก่อนถึงมือลูกค้า แต่ยอดขายก็ไม่ได้ถึงเป้าตามที่คาดหวังเอาไว้นักเพราะราคาที่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับแบรนด์ และลูกค้าหลายคนก็หันไปซื้อ Audi A8 กันมากกว่า
อย่างไรก็ดีการมาของ Volkswagen Phaeton ก็ยังเห็นความพยายามอย่างหนักจากทีมวิศวกร Volkswagen ที่พัฒนารถออกมาให้ดีเทียบเท่าหรือเหนือกว่ารถยนต์แบรนด์หรูแท้ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้พื้นตัวถัง D1 Platform แบบเดียวกับ Bentley Continental GT, เครื่องยนต์กลไกก็แทบยกมาจาก Audi A8 เกือบทั้งหมด
คุณค่าของ Phaeton ยังไม่จบลงแค่นี้แน่นอน เมื่อเว็บไซต์ Car.com รายงานว่า Volkswagen ยังเดินหน้าพัฒนา Phaeton โฉมต่อไปรหัสพัฒนา VW631 ซึ่งจะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐาน MLM Evo (modular longitudinal matrix) Platform น้ำหนักเบาลง แต่เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดีกว่าเดิม
การออกแบบตัวรถจะอ้างอิงกับรูปแบบรถซีดานคูเป้มากยิ่งขึ้น คือมีความสวยโฉบเฉี่ยวมากกว่าแนวหรูหราเหมือนพระที่นั่งเคลื่อนที่ได้ และอาจจะมีรูปแบบตัวถังท้ายและแวกอนให้เลือกด้วย ขุมพลังก็มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 4 สูบ, 6 สูบ และ Plug-in Hybrid แน่นอนว่ามันจะประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์รุ่นเดิมเสียอีก
นอกจากนี้ Car.com ยังวิเคราะห์ความล้มเหลวของ Volkswagen Phaeton ว่ามันเป็นรถที่ “ไม่มีเรื่องราว” อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ Volkswagen ไม่มีปูมหลังในเรื่องรถหรูแต่อย่างใด ส่วนปัจจัยอื่น ๆ เช่น ดีไซน์อนุรักษ์นิยมมากเกินไป, การขับขี่ที่ไม่สบายอย่างที่หวัง ไร้ความโดดเด่น และเครื่องยนต์ที่กินน้ำมันมาก ก็มีส่วนทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ
ดังนั้น Volkswagen Phaeton ต้องยอมลดอีโก้ส่วนตัวลงมาแทนที่จะปะทะกับ Audi A8 ตรง ๆ ก็ลงมาเล่นตลาดคั่นกลางระหว่าง A6 และ A8 แทน แต่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับ A8 ว่าง่าย ๆ คือใช้จุดเด่นด้านราคาขายที่คุ้มค่ากว่านั่นเอง
กำหนดการเปิดตัว Volkswagen Phaeton โฉมใหม่จะมาในปี 2015 นี้ครับ