แอพพลิเคชั่นเรียกรถแท็กซี่ชื่อดังต่างๆที่เข้ามาปฏิวัติวงการแท็กซี่ในหลายประเทศนั้นได้มีผล
ต่อวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยหลังจากที่ NHTSA ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อความปลอดภัยบน
ท้องถนนของประเทศสหรัฐได้เล็งเห็นแล้วว่าทุกวันนี้มีคนใช้บริการแท็กซี่ดังกล่าวมากขึ้นซึ่ง
หมายความว่ามีปริมาณรถยนต์ที่มีผู้โดยสารตอนหลังมากขึ้น ดังนั้นองค์กรนี้จึงคิดที่จะรื้อระบบ
ทดสอบการชนไปด้วยเลย

crash test

เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วที่มีการทดสอบการชนแต่มีการติดตั้งหุ่นที่เบาะคู่หน้าเท่านั้นแต่ด้วยเหตุผล
ที่กล่าวมาจึงมีการเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยของผู้โดยสารตอนหลังด้วยและจะเริ่มใช้กฎนี้ตั้งแต่
ปี 2019 เป็นต้นไปด้วยการติดตั้งหุ่นที่เบาะหลังก่อนการทดสอบการชน ส่วนรถยนต์ที่จะได้คะแนน
ทดสอบการชนเต็มนั้นต้องได้รับการออกแบบและใส่อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยต่างๆมาให้เป็น
มาตรฐานอย่างม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างที่ออกแบบมาปกป้องศีรษะของผู้โดยสารตอนหลังด้วย

289428-Contextual_sensing_could_help_vehicles_to_selectively_fire_driver_passenger_and_curtain_airbags_Source_Freescale_Semiconductor

นับว่าเป็นมาตรการที่น่าจะช่วยลดความสูญเสียบนท้องถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะในความ
เป็นจริงแล้วก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่นั่งเบาะหลังอยู่ตลอดเวลาและในปัจจุบันนั้นม่านถุงลมนิรภัย
ยังไม่ได้ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ถ้าจะให้ดีควรจะมีการรณรงค์ให้มีการคาดเข็มขัดนิรภัย
ด้วยเพราะแม้แต่ในสหรัฐเองนั้นก็พบว่ามีผู้โดยสารตอนหลังมากกว่าครึ่งไม่ได้เข็มขัดนิรภัย เพื่อ
ลดความสูญเสียบนท้องถนนนั้นต้องมาจากความร่วมมือของผู้ผลิตรถยนต์ ผู้กำหนดมาตรฐานและ
ผู้บริโภคด้วยเช่นกัน

 

ที่มา : motorauthority, carandriver