ถ้าจะให้เปรียบเทียบแบรนด์ Saab กับผู้ป่วยโรคมะเร็งก็น่าจะเข้าขั้นระยะสุดท้ายพร้อมจะสิ้นชีพได้ทุกเมื่อ ปัญหาของ Saab ลุกลามอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยอยู่กับ GM จนกระทั่งพำนักอยู่กับ Spyker ในปี 2009 แต่ใช่ว่าจะเป็นยาวิเศษที่ทำให้ Saab หลุดพ้นจากปัญหาเสียทีเพราะ Spyker ไม่มีประสบการณ์บริหารองค์กรเจ้าปัญหาที่ใหญ่กว่าตนเองขนาดนี้
ผลสุดท้าย Saab ก็ลงเอยด้วยการยื่นล้มละลายต่อศาลท้องถิ่นเขตตะวันตกเฉียงใต้ ประเทศสวีเดนในวันที่ 7 กันยายน 2011 เพื่อรับความคุ้มครองทรัพยากรบริษัท Swedish Automobile (บริษัทใหม่ที่ Spyker และ Saab เป็นผู้จัดตั้ง) หลังจากรับสภาพการหยุดผลิตและหนี้สินสะสมคงค้างไม่ไหวอีกต่อไป
หากได้รับการอนุมัติจากศาล บริษัท Swedish Automobile จะมีเวลา 3 เดือนเพื่อปรับโครงสร้างการบริหารงานทั้งหมดภายใต้การระงับกระบวนการจัดเก็บหนี้ตามความคุ้มครองกฏหมายการล้มละลาย
มูลเหตุปัญหาที่ทำให้ Swedish Automobile จำเป็นต้องยื่นล้มละลายก็คือมรสุมปัญหาการหยุดผลิตรถยนต์ Saab มาอย่างยาวนานหลายเดือน แม้บางอาทิตย์จะกลับมาผลิตได้แต่ท้ายที่สุด Saab ก็ไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายให้แก่ซัพพลายเออร์รวมถึงค่าจ้างพนักงาน 3,700 คนที่ติดค้างกันอยู่ดี
Swedish Automobile กล่าววัตถุประสงค์การยื่นล้มละลายครั้งนี้เพื่อเป็นการปรับตัวองค์กรให้อยู่ในเขตการแข่งขันและการกลายเป็นองค์กรอิสระ ป้องกันการเรียกคืนทรัพย์สินและช่วยลดค่าใช้จ่าย เพื่อความมั่นคงในระยะสั้นขณะเดียวกันก็สามารถดึงดูดแหล่งเงินลงทุนได้ง่ายขึ้น
เหมือนปัญหาจะราบรื่นแต่ Saab ก็ยังต้องรอเงินลงทุนจากบริษัทรถในจีนทั้ง Zhejiang Youngman Lotus Automobile Co. และ Pang Da Automobile Trade Co. รวมทั้งการเจรจาทำธุรกิจในจีนจะต้องเลื่อนไปอีก หากผู้มีอำนาจตัดสินยังไม่อนุมัติ
Mr.Victor Muller ดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Saab และ Swedish Automobile กล่าวว่า “กระบวนการฟื้นฟูกิจการโดยสมัครใจจะทำให้พวกเรามีเวลาเพื่อป้องกันและรักษาเสถียรภาพของธุรกิจให้เงินหมุนเวียนระยะสั้น พร้อมรอการผลิตอีกครั้ง เขาคาดหวังบริษัทใหญ่จากจีน 2 บริษัทว่าจะสามารถช่วยด้านการเงินได้