หลังกรณีโกงการวัดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันสุดอื้อฉาวของรถยนต์ Kei-car ค่าย Mitsubishi เมื่อเดือนก่อน
วันนี้ มีข่าวเซอร์ไพรส์วงการรถยนต์รายงานว่า Nissan แบรนด์รถยนต์เบอร์สองของญี่ปุ่น และพันธมิตรรถเล็ก
ต้นเหตุกรณีฉาว เตรียมเข้าปิดดีลการซื้อหุ้นใหญ่ของ Mitsubishi โดยจะมีการหารือกันในวันนี้ (12 พฤษภาคม 2559)
แหล่งข่าวเผยกับสำนักข่าว Reuters ว่า Nissan เตรียมเข้าซื้อหุ้น Mitsubishi ด้วยเงินจำนวนกว่า 2 แสนล้านเยน
หรือประมาณ 6 หมื่นล้านบาท และจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Mitsubishi ด้วยสัดส่วนในบริษัท
ถึง 34% ทันที
ข้อเสนอนี้ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน นั่นทำให้บอร์ดบริหารของทั้ง 2 ค่าย
ต้องประชุมหารือด่วน ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 เพื่อสรุปว่าถ้าการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้สำเร็จจริง จะต้องเกิดอะไรขึ้นบ้าง
สถานการณ์ของ Mitsubishi ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีการเปิดโปงว่า Mitsubishi โกงการทดสอบ
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในญี่ปุ่น กับรถยนต์ 2 รุ่นของตน ซึ่งผู้ค้นพบการโกงนี้ก็ไม่ใช่ใคร
หากแต่เป็น Nissan ผู้เป็นพันธมิตรในการนำเอา Mitsubishi eK Wagon และ eK Custom ไปเปลี่ยนหน้าตา
ขายในยี่ห้อของตนด้วยชื่อ Nissan DAYZ และ Nissan DAYZ Highway Star
หลังจากนั้น เริ่มอื้อฉาวมากขึ้นเพราะ Mitsubishi ต้องออกมายอมรับและเปิดเผยความจริงต่อสาธารณชนว่า
นี่ไม่ใช่รถยนต์เพียง 2 รุ่นที่ตนทำการโกงผลการทดสอบ แต่แท้จริงแล้ว มีรถยนต์อีกกว่า 9 รุ่น ซึ่งอาจมี
รถยนต์ SUV ของค่ายรวมอยู่ในนี้ด้วย และทำกันมายาวนานหลายปีแล้ว
การถูกเปิดโปงนี้ ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของ Mitsubishi ในตลาดหุ้น Nikkei ตกลงมากถึง 43%
(นับตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา) และส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ Mitsubishi ในญี่ปุ่นขายได้น้อยลงไปอีก
จากกรณีนี้ Mitsubishi ต้องเตรียมเงินเป็นจำนวน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท
ในการชดเชยให้กับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ในกรณีฉาวนี้ ทั้งสำหรับภาษีรถเล็กที่ต้องจ่าย และค่าน้ำมันที่ลูกค้า
ต้องจ่ายเกินจริงไป เพราะตัวรถไม่ได้ประหยัดน้ำมันอย่างที่อวดอ้างไว้ อีกทั้งยังรวมไปถึงการชดเชยให้กับ
Nissan ที่นำรถรุ่นดังกล่าวไปขายในแบรนด์ของตนด้วย
จริงๆแล้ว การเข้าซื้อหุ้นโดย Nissan ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพียงแต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น
เร็วขนาดนี้ เพราะ Nissan กับ Mitsubishi เองต่างมีความสัมพันธ์อันดีในระยะหลัง เห็นได้จากการจับมือ
Joint Venture ทำรถ K-Car 2 รุ่นนี้ด้วยกัน ต่างคนเอาไปขายในแบรนด์ของตน รวมไปถึงก่อนหน้านี้ที่มี
ข่าวว่า Renault-Nissan อาจช่วย Mitsubishi ทำรถเก๋งขนาดกลางและใหญ่ขาย รวมไปถึงรายงานข่าวว่า
Nissan Navara NP300 และ Mitsubishi Triton โฉมล่าสุด เคยเกือบจะร่วมพัฒนาด้วยกันมาแล้ว
แต่ทั้งหมดนั่น ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
สำหรับ Mitsubishi นั้น ยอดขายในประเทศบ้านเกิดของตน นับเป็นยอดขายรถยนต์ 10% ของบริษัท
โดยยอดขายหลักที่หาเงินมาหมุนให้บริษัทนั้น ยังคงเป็นรถยนต์ SUV และรถยนต์เชิงพาณิชย์ของตนที่ขาย
ทั่วโลก โดยไทยเองก็เป็น 1 ในตลาดหลักของ Mitsubishi
หากใครจำกันได้ เมื่อปี 2004 หรือราว 12 ปีก่อน Mitsubishi เคยเกิดกรณีอื้อฉาวกับการเรียกคืนรถยนต์ของตน
มาแล้ว จนทำให้ภาพลักษณ์ย่ำแย่ในสายตาผู้บริโภค และเริ่มทรุดลงเรื่อยๆ จนมีรายงานข่าวออกมาเรื่อยๆว่า
Mitsubishi จำเป็นต้องถอดใจกับการทำตลาดรถยนต์นั่ง และหันไปเอาดีด้านรถยนต์เชิงพาณิชย์ และรถยนต์ SUV แทน
แต่จากข่าวนี้ หากการเข้าซื้อหุ้นของ Nissan สำเร็จและเกิดขึ้นจริง ก็อาจเป็นนิมิตหมายอันดีว่า Mitsubishi
อาจได้กลับเข้ามาทำตลาดรถยนต์นั่งอีกครั้ง แต่จะมาในรูปแบบไหน และอาจจะเป็นการนำเอารถยนต์ Nissan
มาดัดแปลงหรือไม่ ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดครับ
ที่มา : Motor1 / Automotive News