เมื่อมีประชาชนคนหนึ่งศึกษาเมล็ดพันธุ์ผลไม้ชนิดใหม่โดยมีความเชื่อว่าผลไม้พระเจ้า
ประทานนี้จะช่วยชุบชีวิตใหม่ให้ผู้คนอยู่ดีกินดี เมื่อลงทุนปลูกมันเป็นอย่างดีก็ปรากฏ
ว่ามันเจริญงอกงามจนกลายเป็นพืชพรรณแห่งมวลมนุษยชาติ ผลไม้สุกงอมหอมหวาน
พร้อมเก็บเกี่ยวความสำเร็จมหาศาลเหลือเพียงแค่หาจำนวนตะกร้ามาให้พอ ในระหว่าง
ทางที่หาตะกร้าเก็บเกี่ยว ผู้หวังผลก็ได้ยินเสียงแห่งการวิจารณ์เล่าขานเพื่อเตือนสติว่า
ผลไม้ที่กำลังจะสุกงอมมันจะกลายเป็นผลไม้พิษทำร้ายท่านในไม่ช้า โดยผู้เตือนอ้างว่า
พวกเขาก็เคยหว่านเมล็ดพันธุ์นี้มาแล้ว

หากท่านเป็นผู้หวังผลการเก็บเกี่ยว ท่านจะตัดสินใจอย่างไร?

2016_05_01_Tesla

เมื่อ Colin Langan นักวิเคราะห์ข้อมูล UBS ได้สัมภาษณ์กับ Jon Bereisa อดีต Chief
Engineer ที่ร่วมกันพัฒนา Chevrolet Volt และทำงานรับใช้ให้แก่ GM นานถึง 35 ปี
แสดงความคิดเห็นว่า Tesla น่าจะประสบชะตากรรมต้นทุนการผลิต Tesla Model 3
สูงเนื่องจากกระบวนการผลิตแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนไม่รวดเร็วพอที่จะรองรับความต้อง
การมหาศาลขนาดนั้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการปรับปรุงความหนาแน่นภายใต้กระบวน
การผลิตเซลล์แบตเตอรี่ขนาดกะทัดรัด ในขณะที่ปฏิกิริยาทางเคมีเพื่อก่อให้เกิดแบตเตอรี่
ชนิดใหม่ก็ยังไม่เกิด จนคาดการณ์กันว่าต้นทุนการผลิตจะลงเหลือเพียงแค่ 135-155
ดอลลาร์ต่อหน่วยวัดกำลังไฟกิโลวัตต์ชั่วโมงภายในปี 2025

Jon ชี้ให้เห็นว่าต้นทุนโรงงานแปรผันของ Tesla Model 3 สูงกว่าราคาขายเริ่มต้น 35,000
ดอลลาร์ถึง 1,510 ดอลลาร์ ส่วน Chevrolet Bolt กลับมีต้นทุนโรงงานแปรผันต่ำกว่า
ราคาขายเริ่มต้น 37,500 ดอลลาร์ถึง 4,980 ดอลลาร์ นั่นเป็นเพราะ Tesla แบกภาระ
วัสดุตัวถังอลูมิเนียม, ขาดแคลนกำลังผลิต, ติดตั้งเซนเซอร์รอบคัน, มีระบบประมวลผล
รวดเร็วและมีต้นทุนการแพ๊คแบตเตอรี่ที่สูง

อย่างไรก็ตาม Jeff Evanson ผู้บริหารการลงทุนสัมพันธ์ของ Tesla ก็ออกมาแก้ข่าวว่า
สิ่งที่ Jon กล่าวนั้นไม่เป็นความจริงทั้งหมด Tesla Model 3 ใช้แค่อลูมิเนียมบางส่วน
เท่านั้นมิใช่ใช้ทั้งคัน, ต้นทุนแบตเตอรี่ของ Model S มันต่ำกว่า 190 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์
ชั่วโมง จึงไม่มีทางที่ Model 3 มีต้นทุนเฉลี่ยแพงกว่านั้น,

ความคิดเห็นดังกล่าวค่อนข้างสอดคล้องกับ Sergio Marchionne ผู้บริหาร Fiat-Chrysler
Automobiles เคยปรามาส Tesla เอาไว้ว่า พวกเขาไม่น่าจะทำกำไรกับ Tesla Model 3
ที่มีราคาถูกแสนถูกได้เลย

ที่มา : Streetinsider