การเปิดผ้าคลุม Mazda 6e ที่ยุโรป ณ งาน Brussels Motor Show 2025 เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2025 กอปรกับภาพการติดตั้งตู้ชาร์จไฟฟ้าในโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ของ Mazda ในประเทศไทย ที่ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดกระแสข่าวว่า Mazda ประเทศไทย อาจนำ Mazda 6e หรือ Mazda EZ-6 จากประเทศจีน เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยช่วงปลายปี 2025 นี้ !

อย่างไรก็ตาม ข่าวการนำ Mazda 6e หรือ EZ-6 เข้ามาจำหน่ายและรุกตลาด BEV ในประเทศไทยนั้น ยังต้องรอการยืนยันจากทาง Mazda ประเทศไทยอีกครั้ง โดยในวันที่ 14 กุมพาพันธ์ ที่จะถึงนี้ Mazda ประเทศไทย จะมีการแถลงข่าวเกี่ยวทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต โดยมีประธานใหญ่ จาก Mazda Motor Corporation มาแถลงร่วมด้วย

     

 

Mazda 6e (หรือ ChangaAn Mazda EZ6 สำหรับตลาดจีน) เป็นรถยนต์ Mid-size Fastback ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม EPA 1 เช่นเดียวกับ ChangAn Deepal L07 ทว่างานออกแบบภายนอกและภายในห้องโดยสาร Mazda ได้รังสรรค์ขึ้นใหม่ตามสไตล์ของตนเอง ภายใต้แนวคิด “Electrifying Design Crafted to Perfection” ดีไซน์ภายนอกเป็นการผสมผสานระหว่างปรัชญาการออกแบบดั้งเดิมที่มีชื่อว่า Kodo Soul of Motion กับความทันสมัยตามสไตล์รถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่

ขนาดและมิติตัวถังของ Mazda 6e มีดังนี้

  • ความยาว 4,921 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง 1,890 มิลลิเมตร
  • ความสูง 1,491 มิลลิเมตร
  • ความยาวฐานล้อ 2,895 มิลลิเมตร
  • ระยะตำ่สุดจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 114 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักตัวรถ 1,952 – 1,953 กิโลกรัม
     

 

ภายในห้องโดยสารมีการจัดวางตำแหน่งของอุปกรณ์ต่างๆ คล้ายคู่แฝดอย่าง ChangAn Deepal L07 ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอชุดมาตรวัด ขนาด 10.2 นิ้ว หลังพวงมาลัย ระบบแสดงผลบนกระจังบังลมหน้าแบบ Augmented Reality หน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 14.6 นิ้ว สวิตช์คันเกียร์เป็นแบบ Stalk Shifter ติดตั้งอยู่ที่คอพวงมาลัย คอนโซลกลางออกแบบเป็นลักษณ์ Bridge-type ด้านบนเป็นแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย 2 ตำแหน่ง พร้อมช่องวางแก้ว ด้านล่างเป็นช่องวางของพร้อมช่องชาร์จไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์ต่างๆ

การตกแต่งภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 2 รูปแบบ เริ่มจาก Takumi เป็นวัสดุหนังสังเคราะห์สีดำ และ Takumi Plus จะเป็นวัสดุหนังแท้ Premium Nappa ผสมกับวัสดุผ้า Suede

     

 

ขุมพลังขับเคลื่อน มีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่ Standard Range และ Long Range โดยมีรายละเอียด ดังนี้

Standard Range 

ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์ หรือ 258 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion LFP ความจุ 68.8 kWh รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 200 kW

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.6 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด Top Speed ทำได้ 175 km/h
  • ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม ทำได้ ทำได้ 479 กิโลเมตร (WLTP)

การชาร์จไฟฟ้า

  • ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC (11 kW) จาก 10 – 80% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง
  • ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (200 kW) จาก 10 – 80% ใช้เวลาประมาณ 22 นาที

Long Range

ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 180 กิโลวัตต์ หรือ 244 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion NMC ความจุ 80 kWh รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 95 kW

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.8 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด Top Speed ทำได้ 175 km/h
  • ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม ทำได้ 552 กิโลเมตร (WLTP)

การชาร์จไฟฟ้า

  • ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC (11 kW) จาก 10 – 80% ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง 30 นาที
  • ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (95 kW) จาก 10 – 80% ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
  

 

งานวิศวกรรมด้านต่างๆ ของรุ่น Standard Range และ Long Range ไม่มีความแตกต่างกัน ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ MacPherson Strut ด้านหลังเป็นแบบอิสระ Multi-link ระบบห้ามล้อ ด้านหน้าเป็นจานเบรกแบบมีครีบระบายความร้อน (Ventilated Disc) ขนาด 310 มิลลิเมตร ด้านหน้าเป็นจานเบรกแบบธรรมดา ขนาด 306 มิลลิเมตร ขณะที่ล้ออัลลอย ให้จากโรงงานเป็นขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง Michelin PILOT SPORT 4 ขนาด 245/45R19

 

 

ความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมของการ Mazda 6e เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ตลอดจนข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจจากการแถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจของ Mazda ประเทศไทย ในอนาคต จะมีการรวมรวบและนำเสนอให้คุณผู้อ่าน Headlightmag ได้ทราบโดยทั่วกัน วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2025 นี้