แม้รถกอล์ฟจะดูคล้ายกับรถยนต์เล็กๆ ที่มีพวงมาลัยและล้อ 4 ล้อ แต่ในความเป็นจริง มาตรฐานความปลอดภัยของรถกอล์ฟนั้นแตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากไม่ได้ผ่านการทดสอบการชนหรือมาตรฐานความปลอดภัยที่เคร่งครัดเช่นเดียวกับรถยนต์
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การทดสอบการชนจาก Euro NCAP ได้หันมาทำการทดสอบการชนของรถกอล์ฟรุ่น Club Car Villager ซึ่งถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม “ยานพาหนะสี่ล้อหนัก (Heavy Quadricycle)” ในหัวข้อการทดสอบการชนด้านหน้าและด้านข้างที่ความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เมื่อพิจารณาผลการทดสอบการชนด้านหน้า เนื่องจากตัวรถไม่มีระบบลดแรงกระแทก เช่น การพับตัวของแกนพวงมาลัยหรือโครงสร้างดูดซับแรงกระแทก ส่งผลให้หุ่นจำลองได้รับการบาดเจ็บอย่างรุนแรง ทั้งบริเวณลำตัวด้านบนที่กระแทกพวงมาลัย และบริเวณขาด้านล่างที่ถูกอัดกระแทกระหว่างเบาะนั่งและแผงหน้าปัด แม้จะมีเข็มขัดนิรภัยแต่ก็ไม่สามารถที่จะลดอันตรายได้มากเท่าที่ควร

สำหรับการชนด้านข้างที่ตัวรถไม่มีโครงสร้างป้องกันโดยสิ้นเชิง ทำให้หุ่นจำลองถูกกระแทกโดยตรงจากอุปกรณ์ทดสอบ สร้างอาการบาดเจ็บอย่างน่าตกใจ
ผลการทดสอบ Euro NCAP ได้สรุปว่ารถกอล์ฟรุ่นนี้ทำงานได้ “แย่มาก” และแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บที่อาจถึงแก่ชีวิต
ในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ รถกอล์ฟได้รับอนุญาตให้ใช้บนถนนที่มีการจำกัดความเร็วไม่เกิน 35 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 56.32 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่สิ่งสำคัญคืออุบัติเหตุจากการชนที่ความเร็วเพียง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับมนุษย์ได้ เนื่องจากรถกอล์ฟไม่ได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันการชนอย่างมีประสิทธิภาพ

แม้รถกอล์ฟจะเหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้นในพื้นที่ที่จำกัดความเร็ว แต่ผู้ใช้งานควรตระหนักถึงความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บร้ายแรงในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หากต้องขับขี่รถกอล์ฟร่วมกับรถยนต์ขนาดใหญ่บนถนน ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่เข้าใกล้การจราจรหนาแน่นหรือวัตถุขนาดใหญ่ที่อาจเกิดการปะทะได้โดยง่าย
ที่มา: The drive