Nissan Motor Co.,Ltd Honda Motor Co., Ltd และ Mitsubishi Motors Corporation ได้ลงนามข้อตกลงร่วมกัน หรือ MOU เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการมีส่วนร่วมดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ ในอนาคต โดยเฉพาะการนำ Mitsubishi Motors เข้ามาควบรวมเอาไว้ด้วยกัน ภายหลังจากที่ทั้ง Honda และ Nissan ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้น ตามบันทึกข้อตกลงตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2024 ที่ทั้ง 2 บริษัทได้ลงนามเพื่อเสริมสร้างกรอบความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ โดยจะทำการวิจัยร่วมกันในเทคโนโลยีพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มสำหรับยานยนต์ยุคใหม่ที่ควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Vehicles หรือ SDVs) โดยเน้นในด้านที่สำคัญต่อระบบอัจฉริยะและการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
ทั้ง 3 บริษัทได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการดำเนินการหารือต่อเนื่องตามกรอบที่ Nissan และ Honda ได้กำหนดไว้ โดยมุ่งเน้นการร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในด้านระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะและการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ขณะที่ Mitsubishi ก็จะเข้ามามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยจะเริ่มจากการสำรวจบทบาทและศักยภาพของตนในการเสริมความร่วมมือระหว่างทั้ง 3 บริษัท
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก Nissan และ Honda ได้เริ่มต้นการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ ขณะที่ Mitsubishi ที่กำลังพิจารณาการมีส่วนร่วมในแผนการนี้ ทำให้ทั้ง 3 บริษัทได้ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างมูลค่าและความร่วมมือมากยิ่งขึ้น โดย Mitsubishi Motors ตั้งเป้าที่จะสรุปผลการตัดสินใจเกี่ยวกับการเข้าร่วมกับ Nissan และ Honda ภายในสิ้นเดือนมกราคม 2025 ก่อนที่ทั้ง Nissan และ Honda จะมีกำหนดการเซ็นสัญญาในเดือนมิถุนายน 2025
Nissan และ Honda ได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2024 ที่ผ่านมา เพื่อมุ่งสู่สังคมอุตสาหกรรมที่ปลอดคาร์บอนและลดอุบัติเหตุทางจราจรให้เหลือศูนย์ โดยเน้นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในยุคของยานยนต์อัจฉริยะและพลังงานไฟฟ้า นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้ง 2 บริษัทจึงได้มีการหารือเพื่อสำรวจความร่วมมือในหลากหลายด้านมากขึ้น
NIssan และ Honda ได้พิจารณาความเป็นไปได้และตัวเลือกต่างๆ ในการควบรวมธุรกิจ โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้การลงนามใน MOU ฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ทั้งสองบริษัทสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันระดับโลก และส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดึงดูดใจลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
หากการควบรวมธุรกิจนี้สำเร็จ ทั้งสองบริษัทสามารถผสานทรัพยากรด้านการจัดการ เช่น ความรู้ เทคโนโลยี และบุคลากร เพื่อสร้างความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และเสริมสร้างความสามารถในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดยานยนต์ในอนาคต
นอกจากนี้ การควบรวมยังสามารถสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นในฐานะ “บริษัทชั้นนำด้านการเคลื่อนที่ในระดับโลก” ผ่านการบูรณาการธุรกิจรถยนต์ 4 ล้อ จักรยานยนต์ และผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์อเนกประสงค์ของ Honda โดยยังคงความโดดเด่นของแบรนด์ทั้ง 2 ไว้
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการควบรวมธุรกิจ
- การเพิ่มประสิทธิภาพและความได้เปรียบผ่านการพัฒนา platform ร่วมกัน เพื่อลดต้นทุนการพัฒนาและการผลิต รวมไปถึงการขยายส่วนแบ่งตลาดในกลุ่ม ICE, HEV, PHEV, และ EV
- การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพื้นฐาน เช่น SDVs และลดความซ้ำซ้อน
- การปรับปรุงระบบการผลิตและโรงงานเพื่อเพิ่มการใช้กำลังการผลิตให้คุ้มค่าต่อต้นทุนมากขึ้น
- การเพิ่มความได้เปรียบในการจัดซื้อโดยใช้ผู้ผลิตชิ้นส่วนร่วมกัน เพิ่มอำนาจการต่อรอง 5. การลดต้นทุนจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยหันมาใช้ทรัพยากรในภาคธุรกิจร่วมกัน
- การควบรวมทางเลือกด้านไฟแนนซ์และการเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับลูกค้า
- การสร้างพื้นฐานทางทรัพยากรบุคคลที่แข็งแกร่ง เพื่อรองรับการพัฒนาทักษะและดึงดูดบุคลากรคุณภาพสูง
โดยสรุป ทั้ง Nissan และ Honda มีแผนจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกัน โดยทั้ง 2 บริษัทจะกลายเป็นบริษัทในเครือภายใต้บริษัทใหม่นี้ การจดทะเบียนบริษัทใหม่ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2026 ภายหลังจากที่ได้จัดการประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายน 2026 เพื่อให้บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้ มีรายได้คาดการณ์เกิน 30 ล้านล้านเยน (6.5 ล้านล้านบาท) และมีกำไรจากการดำเนินงานมากกว่า 3 ล้านล้านเยน (6.5 แสนล้านบาท)