Xiaomi YU7 รถ SUV ขุมพลังไฟฟ้าล้วนรุ่นล่าสุดจาก Xiaomi ที่ถูกออกแบบมาเพื่อต่อกรกับ Tesla Model Y โดยวางแผนเปิดตัวในตลาดจีนช่วงฤดูร้อนปี 2025 นี้ ซึ่งนับว่าเป็นผลงานต่อยอดจากรุ่นพี่ตัวถังซีดานอย่าง YU7 เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2023 แต่โดดเด่นด้วยความสูงและสัดส่วนที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งกว่า
ดีไซน์ภายนอกมีความคล้ายคลึงกับ Ferrari Purosangue ที่ทำให้รถ SUV มีมัดกล้ามและความสปอร์ตที่แตกต่าง ด้านหน้าติดตั้งไฟ LED สไตล์เดียวกับ SU7 ด้านข้างมีรูปทรงโค้งมน โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยขนาดใหญ่ ไฟท้าย LED แบบกว้างตลอดท้ายรถ สปอยเลอร์ท้ายแบบ Ducktail คล้ายรถสปอร์ตจาก Aston Martin
มิติตัวรถ
- ความยาว 4,999 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,996 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,600 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร
ถึงแม้ Xiaomi จะยังไม่ได้เปิดเผยภาพภายในห้องโดยสารของ YU7 แต่มีความเป็นไปได้สูงที่ SUV รุ่นนี้จะนำจอแสดงผลระบบ Infotainment ขนาด 16.1 นิ้ว จากรุ่น SU7 รวมถึงจอแสดงผลสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมการออกแบบที่เน้นความล้ำสมัยและมินิมอล นอกจากนี้ YU7 ยังติดตั้ง LiDAR บนหลังคา เป็นการบอกใบ้ถึงการรองรับเทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติขั้นสูง ซึ่ง Xiaomi นำมาชูเป็นจุดเด่นสำคัญในรถยนต์แต่ละรุ่นของค่าย
เมื่ออ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งประเทศจีน (MIIT) เผยว่า YU7 จะใช้ระบบขับเคลื่อนแบบมอเตอร์คู่ ประกอบไปด้วยมอเตอร์ด้านหน้าพละกำลังสูงสุด 299 แรงม้า (PS) และมอเตอร์ด้านหลังพละกำลังสูงสุด 392 แรงม้า (PS) รวมกำลังสูงสุด 691 แรงม้า (PS)
YU7 จะใช้แบตเตอรี่จาก CATL โดยยังไม่ทราบความจุ หากเปรียบเทียบกับ SU7 ที่มีตัวเลือกแบตเตอรี่ความจุ 73.6 kWh 94.3 kWh และ 101 kWh พร้อมระยะทางขับขี่ต่อ 1 รอบการชาร์จสูงสุด ตามมาตรฐาน CLTC อยู่ที่ 800 กิโลเมตร คาดว่า YU7 ที่มีตัวถังใหญ่และน้ำหนักมากกว่า อาจมีระยะทางขับขี่ต่อ 1 รอบการชาร์จสูงสุด น้อยกว่าไม่มากนัก
สายพานการผลิตของ YU7 อยู่ที่โรงงานของ Xiaomi ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นแห่งเดียวกับที่ผลิตรุ่นซีดาน SU7 ซึ่งเพิ่งจะมีการฉลองยอดการผลิตครบจำนวน 100,000 คัน ไปไม่นานนี้ โดย ซึ่งจะเข้าสู่ตลาด SUV ที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดในขณะนี้
สำหรับราคาจำหน่าย Xiaomi ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่สื่อยานยนต์ต้นทางจากจีนรายงานว่า ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 250,000–300,000 หยวน หรือประมาณ 1.24–1.49 ล้านบาท มีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปี 2025
ที่มา: Carnewschina