สถานการณ์ตลาดรถยนต์หดตัว รวมถึงการมีผู้เล่นในตลาดมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทรถยนต์ชั้นนำหลายรายมียอดขายและผลกำไรลดลงรวมไปถึง Nissan ที่มียอดขายสะสมทั่วโลกลดลง 3.8% เหลือ 1.59 ล้านคัน ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2024 เนื่องจากยอดขายในตลาดหลักของ Nissan ทั้งจีนและสหรัฐฯ ซึ่งครองส่วนแบ่งจากทั่วโลกเกินครึ่งได้ลดลงทั้งคู่ ส่งผลกระทบให้ผลกำไรของ Nissan ในไตรมาสสองของปีนี้ลดลง 85% เหลือ 31,900 ล้านเยน (ราว 7,000 ล้านบาท)

Nissan จึงต้องออกมาตรการลดรายจ่ายหลายประการ โดยมีการประกาศเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2024 จาก Makoto Uchida ตำแหน่ง CEO ว่าบริษัทมีแผนการปลดพนักงานทั่วโลกรวม 9,000 ตำแหน่ง คิดเป็น 6.7% จากพนักงานทั่วโลกที่มีอยู่ราว 133,580 คน ทั้งยังมีมาตรการลดกำลังการผลิตรถยนต์ทั่วโลกลง 20% อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุว่าจะเน้นไปที่การปลดพนักงานส่วนไหน และมีโรงงานแห่งใดบ้าง ที่ได้รับผลกระทบจากการลดกำลังการผลิต

 

Uchida ยังแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลดผลตอบแทนเหลือ 50% โดยสมัครใจนับตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป และยังมีสมาชิกบอร์ดบริหารรายอื่นที่รับมาตรการนี้โดยสมัครใจด้วย นอกจากนั้น Nissan ยังขายหุ้น 10% ที่มีอยู่ใน Mitsubishi Motors จากเดิมที่มีอยู่ 34% เพื่อสร้างผลตอบแทนมูลค่า 68,600 ล้านเยน (ราว 15,000 ล้านบาท) สำหรับมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน Nissan จะร่นช่วงเวลาในการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่เหลือ 30 เดือน

Nissan จะผนวกความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตร Renault และ Mitsubishi ให้แน่นแฟ้นขึ้นด้วย สำหรับการประเมินรายได้จากผลประกอบการ นับถึงสิ้นปีงบประมาณนี้หรือถึงเดือนมีนาคมหน้า Nissan ลดตัวเลขเหลือ 150,000 ล้านเยน (ราว 33,000 ล้านบาท) ต่ำกว่าจากที่ประเมินไว้ตอนแรก 70% สำหรับปัจจัยลบที่ส่งผลให้ Nissan อยู่ในสภาวะนี้ Uchida รับว่าเกิดจากการที่บริษัทคาดการณ์ตลาดผิดพลาด ไม่คิดว่ารถยนต์ Hybrid ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บริษัทมีน้อย จะเติบโตไวขนาดนี้ และยังพบอุปสรรคในการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ด้วย

 

ที่มา: reuters, japantimes