J!MMY Predict…..Thailand Automotive Industry
การได้มีโอกาสเห็น และรับรู้เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา เริ่มรู้สึกว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ในเมืองไทย เริ่มจะอยู่กันยากเย็นขึ้นทุกวัน
คิดเรื่องพวกนี้วนเวียนในหัวมาสักพักแล้ว คงต้องขอเขียนอะไรสักหน่อย แบบสั้นๆ Short Cut เป็นสัญญาณเตือนให้กับทุกยี่ห้อ ที่เผชิญสถานการณ์แตกต่างกัน คำทำนายนี้ จะมีผลไปนานถึงปี 2026 โดยประมาณ
Audi
นับจากนี้ Product Lineup จะมีแต่ Electrification มาพ่วง ยอดขายยังไงๆก็จะลดลง จากนี้ เริ่มกลับมาดูแลบริการหลังการขายให้ดี รู้ว่ายากที่จะคุมต้นทุนการบริหารงาน ให้สอดคล้องกับสภาวะการณ์ที่เปลี่ยนไป แต่ต้องทำให้ได้ ไปให้รอด ไม่เช่นนั้น เหนื่อย
BMW
เมืองนอก ทำอะไรกันอยู่? ดีไซน์ที่ลูกค้าเคยชอบ ถูกเปลี่ยนเป็นอะไรก็ไม่รู้ ถ้ายังไม่รีบแก้ รวมทั้งฝั่งบ้านเราไม่ปรับปรุงมาตรฐานการบริการหลังการขายให้ดียิ่งขึ้นกว่านี้ ตำแหน่งที่ 1 ในกลุ่มรถยุโรป จะไม่จีรัง
BYD
คนจีน ได้ฆ่าแบรนด์ตัวเองในสายตาคนไทยไปมากแล้ว การเปิดตัวรถอะไรก็ตามหลังจากนี้ มันจะไม่ปังปุริเย่เหมือนแต่ก่อนแล้ว ถึงแม้จะเป็น 1 ในแบรนด์จีนที่จะยังอยู่รอดในเมืองไทย นับจากนี้อีก 3 ปีก็ตาม แต่ ถ้ายังไม่แก้คุณภาพการประกอบจากจีน และจากไทย ถ้ายังทำตัวเป็นคนเปิดเกมสงครามราคากันแบบนี้ ต่อไป จะไม่เหลืออะไรให้แย่งขิงอีกเลย
Changan / Avatar
ถ้าข้างในองค์กร ยังไม่ฟังคนไทยกันแบบนี้ อยู่เมืองไทยต่อไปแบบเหนื่อยๆ แน่ๆ คุณภาพรถ ก็ควรต้องปรับปรุงแก้ไข งานออกแบบที่ไม่คิดให้รอบคอบ ขาดเรื่องพื้นฐานของการเป็นรถยนต์ที่ดี และขาดเรื่องบริการหลังการขายที่ดี คือเรื่องน่าเป็นห่วงสำหรับตลาดเมืองไทย
Chery / Omoda / Jaecoo
ทีมไทย พยายามทำงานอย่างหนัก แต่คนจีนก็ยังคงดื้อด้านไม่ฟังอะไรเท่าไหร่เลย ถ้าเป็นแบบนี้ มันจะอยู่ได้ไม่นานเอานะ แค่เปิดตัว กระแสคนพูดถึงก็เงียบกริบยิ่งกว่าป่าช้่า
Ford
การมองอนาคตทุก 3 ปี ของชาวอเมริกันเป็นเรื่องน่ากลัว การไม่ตัดสินใจเดินเครื่อง เอารถรุ่นใหม่ รุ่นอื่นๆ นอกเหนือจาก Ranger และ Everest มาทำตลาด คือความเสี่ยงทางธุรกิจโคตรๆ Ford เคยรอดพ้นจากการถูกบริษัทแม่สั่งปิดมาแล้่วรอบนึงแบบเงียบๆ ดังนั้น การยืนประคองตัวในตอนนี้ ยากลำบาก Ford ในไทย ต้องมี Product ตัวอื่นที่จะมาช่วย อีกสัก 1 – 2 ตัว เพื่อประคองให้ไปต่อ รอดๆ แบบสบายใจ ส่วนความพยามแก้ปัญหาบริการหลังการขายที่ผ่านมา ดีแล้ว แต่ยังไม่พอ ต้องดีขึ้นไปกว่านี้อีก! แก้ Defect “ในสายตาลูกค้า ไม่ใช่สายตาคนในองค์กร” ให้จบกว่านี้อีก
GAC / Aion
อย่าดื้อ ออกจากกะลาบ้าง ฟังคนไทย ให้มากกว่านี้ เน้นบริการหลังการขายมากกว่านี้ อย่าแค่ให้ ดีลเลอร์รับหน้าเสื่อกับลูกค้า Harmony เขาก็เหนื่อยนะ ถ้ายังดื้อกันต่อไป ต่อให้มีโรงงานในเมืองไทย ก็อาจจะไม่ได้อยู่กันยาวๆ นะ
GWM Great Wall / Haval / ORA / Tank
4 ปีที่แล้ว คิดเอาไว้อย่างไร ทำนายไว้อย่างไร 4ปี ต่อมา ตรงตามที่คิดไว้เป๊ะ มันหมายความว่ายังไง ขอย้ำอีกที การลาออกของพี่ณรงค์ คือสัญญาณอันตรายแล้วนะ ว่า อนาคตของแบรนด์จากนี้ จะเลี้ยวไปทางไหน ถ้าเลี้ยวผิด คือ ลงเหวนะ อย่าคิดว่าทุนจะหนา แล้วจะเอาเงินมาเผาทิ้งในเมืองไทยกันแบบนี้นะ คนจีนที่เมืองจีน ทำตัวเองกันทั้งนั้น ไม่ยอมฟังคนไทย มันก็จะจบไม่สวยแน่ๆ ในอนาคต ไม่ต้องออกแถลงการณ์ยาวๆหรอก ตอน GM จะลาจากเมืองไทย ก่อนหน้านั้นนิดหน่อย เขาก็ทำแบบเดียวกันนี่แหละ!
Honda
เลิกอนุรักษ์นิยม กันได้แล้ว ญี่ปุ่นควรเลิกกั๊ก Option ในรถ รุ่นต่อๆไปเสียที คุณภาพการประกอบ ปัญหาสนิม แร็คพวงมาลัย เมื่อไหร่จะแก้ให้จบ แล้วบริการหลังการขาย ที่เคยเน้น CS No.1 หนะ ตอนนี้หายไปไหนหมดแบรนด์ Honda เริ่มเสื่อมความนิยมลงไปทุกวันๆแล้วนะ จากปัญหาที่สะสมมาเหล่านี้ ถ้ายังไม่รีบแก้อะไรตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ปรับ Mindset การทำงานในองค์กร ทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่น ทุกอย่าง จะสายเกินไป และอาจจะถึงแก่การร่วงถอยลงมา อ้อ ต่อให้สรรพสามิตใหม่ จะเอื้อต่อรถ Hybrid แต่อย่างน้่อย Next Gen of City 2026 นอกจากจะมี Hybrid แล้ว ยังต้องเหลือ 1.0 Turbo ไว้ โดยเอาไปปรับปรุงเพิ่ม เพื่อให้พอคุ้มต่อการลงทุน ไม่งั้น Honda จะเสียลูกค้าที่ยังต้องการ สันดาปล้วน ไปอีกเยอะ อ้อ แล้วเจ้า Freed หนะ StepWGN หนะ เอามาเถอะ คนกลุ่มนึงรออยู่ ในอดีต ที่พลาด เพราะมั่นใจในการตั้งราคากันมากไปทั้งนั้น WR-V ก็เป็นตัวอย่างล่าสุด ไม่เข็ดกันสักที
Hyundai
ทีมไทยก็ทำงานแทบตาย เหนื่อยแทน เอาใจช่วย แต่ทีมเกาหลีใต้ ก็เยอะสิ่งอย่าง ไม่แพ้คนจีน หลายอย่างชะงักงัน หลายอย่างช้าเกินการ ไหนละ Hyundai Speed ที่เคยเล่าให้เราฟัง ต่อไปจะเป็นยังไงกันดี? เรียนรู้จักคนไทยให้เยอะกว่านี้ อย่างก อย่าเขียม ในเรื่องไม่เป็นเรือง แล้วจะรุ่งเรืองกว่านี้อีก
Isuzu
การมีแค่ D-Max และ MU-X คือความเสี่ยงทางธุรกิจในระยะยาว ใครก็ได้ ฝากบอกชาวญี่ปุ่นที่ Fujisawa ที่เถอะ พวกเขาจำเป็นต้องมี Small SUV ที่เล็กกว่า MU-X ภายใน 3-5 ปีข้างหน้านี้ ไม่เช่นนั้น อนาคตจะยิ่งเปราะบางมากกว่านี้ เพราะที่ Isuzu เมืองไทย อยู่ได้ มันไม่ใช่เพราะรถบรรทุกขนาดใหญ่ แต่มันมาจากรถกระบะ และ MU-X ต่างหาก! ชาวญี่ปุ่นทั้งหลาย ตื่นกันเสียที!!!
Kia
ทีมไทย ไม่น่าห่วงละ แต่มันอยู่ที่ นโยบายในอนาคตมากกว่า ว่าบริษัทแม่จะเอายังไง อ้อ ไอ้ กระบะ Tassman หนะ งานออกแบบ ทรงนี้ คนไทยไม่ชอบเยอะนะ มันเหมือน BYD กระบะไฟฟ้ามากๆ ขออย่างเดียว ต่อให้ในเกาหลีใต้ทะเลาะกันให้ตายยังไง แต่ถ้า Kia ไม่ทำอะไรร่วมกับ Hyundai ในไทย เรื่องการประกอบรถ บอกเลยว่า อนาคตก็จะยังโตไปไม่ได้มากกว่าตอนนี้
Mercedes-Benz
ฝรั่งเยอรมัน ช่วยเข้าใจความต้องการของลูกค้าคนไทยให้มากกว่านี้หน่อยเหอะ บริการหลังการขาย พักหลังนี้ ลูกค้าก่นด่าให้ฟังเยอะขึ้นมาก มองลูกค้า ให้เป็นเหมือนคนในครอบครัวเราเอง อย่ามองแบบ ต้องตามตรรกะเป๊ะๆ บางทีมันจะเสียลูกค้าระดับกลางๆ เอา อ้อ ขอรถรุ่นพื้นฐาน 1.8 – 2.3 ล้านบาท มาเอาใจลูกค้าวัยเกษียณ ที่คิดจะซื้อรถคันสุดท้ายในชีวิต เป็นเบนซ์ ให้มันจบๆ เสียทีเถอะ! และมันต้องเป็น C-Class ตัวเริ่มต้น ออพชันมีเท่าที่จำเป็น เอาใจ สว. นิดนึงก็ยังดี ไม่เช่นนั้น เหนื่อยแน่ๆ
MG
10 ปี ผ่านไป คนไทยผลัดใบผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเยอะ แต่ปัญหาเดิมๆ ก็ยังคงอยู่ คุณภาพ Reliability ของตัวรถ ก็ยังคงเป็นปัญหาให้ตามล้างตามเช็ดกันต่อไป ยอดขายที่เหนื่อยขึ้นเรื่อยๆ กับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ถูกสังคมด้อยค่าไปพอสมควร MG จะยังเป็นแบรนด์หนึ่ง ที่ยังอยู่ในเมืองไทยต่อไปได้ แต่อยู่ในระดับที่ ไม่ดีไปกว่านี้ ถ้าขุนพลฝั่งการตลาด เกิดลาออกตอนนี้ ทำใจได้เลย ช่วงขาลงกำลังจะมา เพราะทุกวันนี้ MG อยู่ได้ด้วยการตลาด และการสร้างกระแสจากรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งเดี๋ยวนี้ เปิดตัวอะไรมา ก็ไม่ปังเท่าในอดีตแล้ว หากไม่แก้ไขเรื่องคุณภาพของตัวรถ ในทุกๆด้าน บอกเลย มันจะไม่ดีขึ้นไปกว่านี้หรอก
Mazda
แดนสนธยา มีอะไรก็อมพะนำไว้ ลูกค้า เขาขาดความมั่นใจในอนาคตกันหมดแล้ว ไม่แก้ไขอะไรกันเสียที จะเงียบเอาไว้อย่างนี้จนกว่าทุกอย่างจะหายนะกว่านี้กันเหรอ? บริการหลังการขายทุกวันนี้ แพงขนาดนี้ แต่ต่อลมหายใจดีลเลอร์ได้ยากขึ้นทุกวัน ต่อให้ดีลเลอร์ จะเห็นอนาคตแล้ว พอมีความหวัง แต่ถ้าลูกค้าเขาไม่เห็นภาพนี้ไปด้วยกัน แบรนด์จะตกต่ำจนกู่ไม่กลับในระยะยาว
Mitsubishi Motors
เน้นเพิ่มความสามารถของช่าง ตามศูนย์บริการให้ดีๆ ช่วยดีลเลอร์ใหม่ ให้ยืนหยัด รอดได้ยาว ทุกคนจะได้รอดไปด้วยกัน กลับไปแก้งานออกแบบด้านหน้ารถของทั้ง Triton และ Next Gen of Pajero Sport ด้วย ส่วน X-Force ต้องจัดสเป็กดีๆ ราคาเหมาะสม ดู Honda เป็นตัวอย่าง อย่าทำแบบนั้น ทีม Product ตอนนี้ ไฟแรงที่สุดเท่าที่พวกคุณเคยมีกันมา คนญี่ปุ่นอย่าดื้อมากนักเลยเหอะ ไหว้ละ!
Neta
เอาตัวให้รอดละกันนะ คนไทยที่ช่วยคุณสร้างแบรนด์กันมา ลาออกกันไปหมดแล้ว จากนี้ทุกอย่างจะยิ่งเละเทะหนักกว่าเดิม เตรียมใจไว้เลย
Nissan
Serena ถ้าจะมา ต้องเปิดตัวคู่กันเท่านั้น แม้ว่า การส่งมอบจะแตกต่างช่วงเวลากันก็ตาม เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ ปี 2025 จะเป็นอีกปีที่เหนื่อยหนักแน่ และอาจจะรอ กองทัพรถใหม่ หลายรุ่นรวดในปี 2026 ไม่ทันการณ์ ตอนนี้ ทีมงานข้างในเริ่มเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้นแล้ว แต่ต้องประับการทำงานให้ทันต่อสถานการณ์มากยิ่งกว่านี้ ดีลเลอร์พร้อมช่วย ลูกค้าพร้อมอุดหนุน ทีมไทยพร้อมช่วยกันแก้ไขให้ดีขึ้น แต่ สำนักงานใหญ่ใน Yokohama เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวน่าปวดกบาลกันเสียที!?
Porsche
แก้บริการหลังการขายด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!
Subaru
กลับไปหาตัวตนดั้งเดิมกันเสียที มันก็ดี แต่ มันต้องมีหนทางที่ทำให้อยู่รอดได้ในระยะยาวมากกว่านี้ คนญี่ปุ่นต้องกล้าได้กล้าเสียกว่านี้ ชาวสิงค์โปร์ผู้มาใหม่ ก็ต้องฮึดสู้กว่านี้ จะทำธุรกิจกันแบบเดิมๆ ไม่ได้อีกแล้ว
Suzuki
คนไทย พยายาม ไฟต์ ต่างๆ จนเหนื่อยแล้ว ได้แต่หวังว่า รถรุ่นใหม่ จะเข้าไทยมาเร็วๆสักที ชาวญี่ปุ่นทั้งหลาย อย่าขี้กลัวกันไปหน่อยเลย
Tesla
ไม่โตไปกว่านี้ ไม่ดีไปกว่านี้ ทุกอย่างจะอยู่กับที่ และอนาคตของแบรนด์ ขึ้นอยู่กับชะตากรรมของ Elon Musk เท่านั้น อย่าให้เป็น DeLorean แห่งศตวรรษที่ 21 ละ!
Toyota
ทีมคนญี่ปุ่น ที่ญี่ปุ่น ฟังคนไทยให้เยอะยิ่งกว่านี้เถอะ 500D หนะ อย่าชักเข้าชักออกอะไรกันอีก ฟังแล้วรำคาญจิตโคตรๆ อะไรกันนักกันหนา Corolla Altis ก็เงียบกริบ Prius ก็ไม่มา จะรอ Hilux Next Gen ก็น่าจะอีกนาน สถานการณ์มันจะหนักกว่านี้ อ้อ ยอดผลิต Camry หนะ เพิ่มจากเป้าเดิมไว้อีกนิด เพราะยอดผลิต 1-2 เดือนแรก ยังไงก็ไม่พอขายแน่ๆ! อ้อ บรรดาลุงๆ ที่ Daihatsu หนะ ถ้าอยากเอามาช่วยทำรถเล็กต้นทุนต่ำกันต่อไปละก็ หาทาง พาพวกเขาไปเปิดโลกในต่างแดนให้มันมากกว่านี้ อย่าเอาแต่หมกตัวอยู่ใน Osaka!!!
Xpeng
รถยนต์ ไม่ได้มีแค่ Software แต่บริการหลังการขาย คือเรื่องสำคัญในการเสริมความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในระยะยาว ดังนั้น เน้นผูกใจลูกค้าให้ดีๆ ไม่งั้น เหนื่อยกว่านี้ ตอนเปิดตัวแบรนด์ถือว่าทำได้ดีประมาณหนึ่งแล้ว
Volvo
ดีแล้วที่ บริษัทแม่ กลับลำ เรื่อง Go Electrification เต็มตัว แต่ บริการหลังการขาย ยังต้องทำให้ลูกค้าอุ้่นใจเพิ่มขึ้นกว่านี้อีก งานออกแบบรถรุ่นใหม่ๆหลังจากนี้ การเน้นเรื่อง Safety ขณะขับขี่ หายไปไหนหมด? อย่าแค่ทำรถออกมา ตามใจตัวเอง แต่มองลูกค้าทั่วโลกด้วย ไม่ใช่มองแค่ชาวยุโรป อเมริกาเหนือ และจีน เพียงแค่นั้น ไม่ได้
Zeekr
รถหนะดี แต่บริการหลังการขาย ยังเตรียมไม่เสร็จกันสักที ไม่มีอะไรให้ลูกค้ามั่นใจได้เลย แล้วอย่างนี้จะอยู่รอดในระยะยาวได้อย่างไร ไหนๆ จะเป็น Chinesse Premium มันก็ต้อง Premium ยิ่งกว่านี้ให้สุดทุกทาง ไม่ใช่ครึ่งๆกลาง ๆและมีปัญหาให้ลูกค้าด่าทอตั้งแต่เริ่มต้นส่งมอบรถคันแรกๆกันเลยแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ
นึกออกเท่านี้…..