ราคาอย่างเป็นทางการ Hyundai IONIQ 5 N

  • IONIQ 5 N : 3,790,000 บาท

นำเข้าทั้งคัน (CBU) จากเกาหลีใต้ มาพร้อมการรับประกันและบริการ ดังนี้

  • ฟรีค่าแรงเช็คระยะครั้งที่ 1 – 10 นาน 10 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
  • รับประกันแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูง (High Voltage Battery) 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร
  • รับประกันตัวรถ (Warranty) 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
  • สิทธิประโยชน์รับบริการ V2V จํานวน 2 ครั้งต่อปี ระยะเวลา 5 ปี (ภายในกรุงเทพฯ)
  • บริการยก/ลาก ไม่จํากัดจํานวนครั้งและระยะทาง ในระยะเวลา 5 ปี
  • ฟรี Home Charger พร้อมค่าแรงติดตั้ง และรับประกันการติดตั้ง 1 ปี

 

ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension

  • ความยาว 4,715 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง 1,940 มิลลิเมตร
  • ความสูง 1,585 มิลลิเมตร
  • ความยาวฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร
  • ระยะตำ่สุดจากใต้ท้องรถถึงพื้น Ground Clearance 142 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักตัวรถ 2,230 กิโลกรัม
  • พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 480 ลิตร และ 1,540 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง

 

ขุมพลังขับเคลื่อน
Powertrain

IONIQ 5 N

ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM) กำลังสูงสุด 609 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 740 นิวตันเมตร เมื่อใช้โหมด N Grin Boost จะมีพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 650 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 770 นิวตันเมตร (เพิ่มกำลังชั่วขณะ 10 วินาที  เรียกใช้ได้ทุกๆ 1 นาที) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion Polymer ความจุ 84.0 kWh รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 10.5 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 350 kW (Ultra Fast Charging)

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.5 วินาที
  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.4 วินาที เมื่อใช้ N Grin Boost
  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.15 วินาที เมื่อใช้ N Launch Control
  • ความเร็วสูงสุด Top Speed ทำได้ 260 km/h
  • ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม ทำได้ 448 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)

การชาร์จไฟฟ้า

  • ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC 10.5 kW จาก 10 – 100% ใช้เวลา 7 ชั่วโมง 35 นาที
  • ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC 50 kW จาก 10 – 80% ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที
  • ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC 240 kW จาก 10 – 80% ใช้เวลา 36 นาที
  • ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC 350 kW จาก 10 – 80% ใช้เวลา 18 นาที

เทคโนโลยีการขับขี่ ประกอบด้วย

  • ระบบการขับขี่ในสนามแข่ง N Race
    • Sprint Mode ปล่อยพละกำลังออกมาทั้งหมด
    • Endurance Mode บาลานซ์พละกำลังให้วิ่งได้นานๆ
  • ระบบปรับอุณหภูมแบตเตอรี่สำหรับการแข่ง N Baterry Preconditioning
    • Drag Race จะอุ่นแบตเตอรี่ไว้ก่อน ประมาณ 30 – 40 องศาเซลเซียส
    • Track อุ่นแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับสภาพสนามนั้นๆ
  • ระบบออกตัว N Launch Control
    • ลดระยะเวลาเร่ง 0-100 km/h จาก 3.5 วินาที เป็น  3.15 วินาที
  • ระบบสร้างแรงหน่วงจากมอเตอร์ N Brake Regen สูงสุด 0.6G
  • ระบบปรับอัตราส่วนการกระจายกำลัง N Torque Distribution
  • ระบบการขับขี่แบบดริฟท์ N Drift Optimizer
    • ส่งกำลังส่งล้อหลังเพียงอย่างเดียว
    • เพิ่มแรงเบรกที่ล้อหน้า
  • ระบบจำลองการเปลี่ยนเกียร์ N e-shift
  • เสียงสังเคราะห์ 3 รูปแบบ N Active Sound+ (มีลำโพงภายในและนอกตัวรถ)
    • Ignition
    • Evolution
    • Super Sonic

 

อุปกรณ์ภายนอก
Exterior Equipment

  • ล้อ Forged Alloy ขนาด 21 นิ้ว (9.5J x 21)
  • ยาง ขนาด 275/35R 21
  • จานเบรกหน้าแบบ Ventilated Disc ขนาด 400 มิลลิเมตร
  • จานเบรกหลังแบบ Ventilated Disc ขนาด 360 มิลลิเมตร
  • ช่วงล่าง N Suspension (เตี้ยกว่ารุ่นปกติ 20 มิลลิเมตร)
  • ช่องระบายอากาศซุ้มล้อหน้า – หลัง
  • เฟืองท้าย e-LSD
  • ชุด Aeroparts รอบคันสีดำ ตัดด้วยแถบสีส้ม
  • ระบบไฟหน้า เปิด – ปิดอัตโนมัติ
  • ไฟหน้าแบบ Parametric Pixel LED
  • ไฟท้ายแบบ Parametric Pixel LED
  • ช่องระบายอากาศสำหรับระบบรถยนต์ด้านหน้าแบบ Active Air Intakes
  • กระจกบังลมหน้าแบบป้องกันเสียงรบกวน Acoustic Glass
  • ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Light แบบ LED
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
  • กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า
  • ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างแบบ LED
  • สปอยเลอร์หลังแบบ Wing-type N Spoiler
  • มือจับประตูแบบป๊อปอัพ พร้อมเซ็นเซอร์
  • ประตูท้ายเปิด – ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบ Smart

 

อุปกรณ์ภายใน
Interior Equipment

  • เบาะนั่งคู่หน้าแบบ N Bucket Seats
  • เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง และหนังกลับ Alcantara
  • สัญลักษณ์ N เรืองแสง บริเวณเบาะนั่งคู่หน้า
  • เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมระบบปรับดันหลัง Lumbar Support
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับพับได้แบบ 60:40
  • แผงด้านข้างประตู ตกแต่งด้วยธีม Checkered Flag
  • พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง เดินตะเข็บด้านสีฟ้า
  • พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (สูง – ตำ่ และ เข้า – ออก)
  • มือจับประตูด้านในสี Black Chrome
  • แป้นปรับระบบแรงหน่วง หลังพวงมาลัย Regenerative Paddle Shifters
  • สวิตช์ปรับโหมดการขับขี่ Drive Mode บนพวงมาลัย
  • สวิตช์เปิด – ปิดโหมด NGB (N Grin Boost)
  • กุญแจรีโมทพร้อมระบบ Smart Keyless Entry
  • สวิตช์สตาร์ท EV Start / Stop
  • แป้นเบรกและแป้นคันเร่งแบบ Sporty Pedal
  • หน้าจอชุดมาตรวัด ขนาด 12.3 นิ้ว
  • ระบบแสดงผลบนกระจกบังลมหน้า HUD
  • หน้าจอเครื่องเสียงและความบันเทิงแบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว
  • ระบบเครื่องเสียงพรีเมียม BOSE พร้อม External Amplifier
  • ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ลำโพง 8 ตำแหน่ง
  • ระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อสารไร้สาย Bluetooth
  • ช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์มัลติมีเดีย USB-C 1 ตำแหน่ง
  • ช่องชาร์จไฟ USB-C 5 ตำแหน่ง
  • ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V
  • ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย Wireless Charger
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 2 โซน
  • ระบบ V2L ภายใน พอร์ตสำหรับชาร์จพลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์ให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ
  • ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบ LED
  • ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร Ambient Mood Light 64 สี
  • กระจกไฟฟ้าปรับขึ้น – ลงอัตโนมัติ พร้อมระบบกันหนีบ
  • กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
  • เบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Hold

 

ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่
Safety Features & Driving Assistance

  • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
    • ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง
    • ด้านข้าง 2 ตำแหน้ง
    • ม่านถุงลม 2 ตำแหน่ง
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESC
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control)
  • ระบบช่วยหยุดรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ Multi-Collision Brake (MCB)
  • ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง TPMS
  • ระบบเซ็นเซอร์กะระยะการเข้าจอด ด้านหน้าและด้านหลัง
  • ระบบกุญแจ Immobilizer
  • ชุดซ่อมยางชั่วคราว (TMK)
  • ระบบ VESS จำลองเสียงเครื่องยนต์เพื่อความปลอดภัย สำหรับคนเดินถนน
  • แพ็คเกจความปลอดภัย Hyundai SmartSense
    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Smart Cruise Control with Stop and Go)
    • ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ FCA
    • ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก FCA-JT
    • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA
    • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LFA
    • ระบบช่วยเตืือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ RCCA
    • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา BCA
    • ระบบป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง SEA
    • ระบบกล้องมองภาพจุดอับสายตา BVM
    • กล้องมองรอบทิศทาง (Surround View Monitor)
    • ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้า DAW
 

 

สีตัวถังภายนอก
Exterior Colors

มีให้เลือก ดังนี้

  • สีดำ Abyss Black Pearl
  • สีเทา Ecotronic Grey
  • สีเทาด้าน Ecotronic Grey Matte (เพิ่มเงิน 20,000 บาท)
  • สีเทาอ่อน Cyber Grey
  • สีขาว Atlas White
  • สีขาวด้าน Atlas White Matte (เพิ่มเงิน 20,000 บาท)
  • สีฟ้า Performance Blue
  • สีฟ้าด้าน Performance Blue Matte (เพิ่มเงิน 20,000 บาท)
  • สีส้ม Soultronic Orange

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ Click Here


Hyundai IONIQ 5 (MY2024)

ราคาอย่างเป็นทางการ Hyundai IONIQ 5 (MY2024) : 1,699,000 – 1,829,000 บาท | ราคาใหม่ ตามโครงการ EV3.5