ทางเลือกเกียร์ธรรมดาในตลาดรถกระบะและ SUV ของชาวอเมริกันกำลังทยอยหายไปเรื่อยๆ ขณะที่รถเก๋งสมรรถนะสูงยังคงมีให้เลือกใช้อยู่ โดยล่าสุดกับค่าย Jeep ที่ได้ถอดทางเลือกเกียร์ธรรมดาที่มีให้ใน Gladiator เหลือไว้เพียง Wrangler เครื่องยนต์ Pentastar V6 3.6 ลิตร สำหรับรถ Model Year 2025 โดยรุ่นย่อยอื่นๆ จะติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นั่นหมายความว่าจะมีผู้เล่นเพียงรายเดียวที่ยังคงมีทางเลือกเกียร์ธรรมดา ได้แก่ Toyota Tacoma
Jeep ไม่ได้มีการปรับรายละเอียดอุปกรณ์ของ Wrangler Model Year 2025 แต่อย่างใด ยกเว้นเพียงแค่การเพิ่มกระจกไฟฟ้าและเซนทรัลล๊อคให้กับทุกรุ่นย่อย พร้อมทางเลือกสีตัวถังใหม่ ได้แก่ สีฟ้า Fathom Blue และสีเขียว ’41 ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถทหารและรถ Jeep ในตำนาน
ขณะที่การเปลี่ยนแปลงของเวอร์ชั่นกระบะอย่าง Gladiator นอกจากการถอดทางเลือกเกียร์ธรรมดาออกไปจากไลน์อัพแล้ว ยังได้เพิ่มระบบ Active Cabin Ventilation system ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสั่งการทำงานของระบบปรับอากาศได้จากระยะไกลผ่านทางแอปพลิเคชั่นในมือถือ
Wrangler
Gladiator
ขุมพลังที่มีให้เลือกในตลาดอเมริกาสำหรับ Gladiator และ Wrangler ได้แก่ รุ่น 4xe hybrid เครื่องยนต์เบนซินความจุ 2.0 ลิตร 4 สูบ พ่วงระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์และมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ทำให้ได้กำลังสูงสุดมากถึง 380 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 637 นิวตัน-เมตร จับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ระบบ TorqueFlite โดยสามารถวิ่งเป็นระยะทาง 34 กิโลเมตร ด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ความจุ 17.3 kWh พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น โหมด EV โหมดประหยัดแบตเตอรี่ หรือโหมดสั่งให้เครื่องยนต์ปั่นไฟชาร์จแบตเตอรี่ ที่เป็นครั้งแรกของทางเลือกสำหรับรุ่น Wrangler
ขณะที่ขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายในล้วนเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ พ่วงระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 272 แรงม้า จับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ระบบ TorqueFlite รวมไปถึงเครื่องยนต์เบนซิน Hemi V8 ความจุ 6.4 ลิตร อันเลื่องชื่อ กำลังสูงสุด 392 แรงม้า
อย่างไรก็ตามเครื่องยนต์เบนซิน Pentastar V6 3.6 ลิตร กำลังสูงสุด ให้กำลังสูงสุด 309 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด365 นิวตัน-เมตร มีให้เลือกเพียงเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะเท่านั้น