เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2024 เวลาราว 3.13 น. ได้เกิดเหตุรถบรรทุกขุมพลังไฟฟ้า Tesla Semi ประสบอุบัติเหตุเสียหลักลงข้างทางบนทางหลวงหมายเลข I-80 พื้นที่ California ของสหรัฐฯ จากนั้นได้เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เคราะห์ดีที่ไฟไม่ลุกลามไปเผาผลาญสิ่งอื่น และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้เพราะคนขับหนีทัน ล่าสุด ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ข้อมูลบางส่วนมาให้วิเคราะห์กัน

บอร์ดบริหารด้านความปลอดภัยในการขนส่งหรือ National Transportation Safety Board (NTSB) ได้เปิดเผยว่าอุบัติเหตุไฟไหม้ Tesla Semi ต้องใช้เวลาในการควบคุมเพลิงนาน 15 ชั่วโมง และต้องปิดถนนในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะไฟรุนแรงมาก จนต้องใช้น้ำเป็นจำนวนมากกว่า 189,000 ลิตร รวมถึงใช้เครื่องบินโปรยสารเคมีจากท้องฟ้าในการควบคุมเพลิงด้วย

 

ส่วนความรุนแรงนั้น มีอุณหภูมิสูงกว่า 540 องศาเซลเซียส ซึ่งมากพอที่หลอมอะลูมิเนียมได้ ทั้งยังมีความสูงของเปลวเพลิงสูงสุดราว 2.5 เมตร และมีรัศมีกว้างสุดราว 10 เมตร ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุยังไม่มีการเปิดเผย แต่ระบุว่า Tesla Semi เสียหลักเข้าข้างทาง ตามมาด้วยการชนแท่นกั้นทางโลหะและต้นไม้ จากนั้นถึงมีไฟลุกไหม้ ส่วนระบบขับขี่อัตโนมัติ Autopilot ไม่ได้เปิดใช้งานในช่วงเกิดเหตุ

เหตุการณ์นี้อาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง Tesla Semi ไม่น้อย ซึ่งเดิมทีได้เผยโฉมเป็นครั้งแรกในปี 2017 โดยในตอนนั้นระบุว่าจะออกจำหน่ายในปี 2020 แต่จวบจนปัจจุบัน รถบรรทุกขุมพลังไฟฟ้ายังอยู่ระหว่างการทดสอบ และมีการผลิตเป็นจำนวนไม่มาก ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดคือ Tesla เปิดเผยในเดือนกรกฏาคม 2024 ว่าการเตรียมงานโรงงานผลิต Tesla Semi ยังดำเนินไปตามแผน และจะเริ่มการผลิตในปี 2025

 

ที่มา / ภาพ: cnbc, carscoops