ราคาคาดการณ์ All NEW Subaru Crosstrek (XV)

  • Subaru Crosstrek e-BOXER Hybrid : 1,800,000 บาท*

นำเข้าทั้งคัน (CBU) จากประเทศญี่ปุ่น

*ราคาคาดการณ์จำหน่ายโดย TC Subaru (ประเทศไทย)

 

TC Subaru ประกาศแผนเปิดตัวรถยนต์ใหม่ปี 2025 รวมทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ Subaru Outback (Minorchange), Subaru WRX, Subaru BRZ, All NEW Subaru Forester e-BOXER Hybrid และ All NEW Subaru Crosstrek (XV) e-BOSER Hybrid พร้อมเผยราคาจำหน่ายเริ่มต้นของ Crosstrek อยู่ที่ 1,800,000 บาท โดยทุกรุ่นจะถูกนำเข้ามาทั้งคัน (CBU) จากโรงงานผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น

All NEW Subaru CROSSTREK (XV) สเป็คญี่ปุ่น มีดังนี้ 

ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension

  • ความยาว  4,480 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง  1,800 มิลลิเมตร
  • ความสูง  1,580 มิลลิเมตร
  • ความฐานล้อ  2,670 มิลลิเมตร
  • ระยะตำ่สุดจากใต้ท้องรถถึงพื้น Ground clearance  200 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักตัวรถ 1,540 – 1,620 กิโลกรัม
  • ความจุถังน้ำมัน 48 ลิตร
 

Subaru Crosstrek  ถูกสร้างขึ้นบน Subaru Global Platform ที่ถูกปรับปรุงเพิ่มเติม โดยคานกันชนหน้าถูกปรับให้มีขนาดใหญ่ และยื่นไปทางด้านหน้ามากขึ้น และมีการเพิ่ม collision sub-frame เข้าไปยังโครงสร้างตัวถัง เพื่อซับแรงกระแทกให้ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังนำ Know-how เรื่อง Full-inner-frame Construction ที่เพิ่งจะถูกนำมาใช้ใน Levorg และ WRX S4 มาใช้กับ Subaru Crosstrek ใหม่ อีกด้วย อนึ่ง Full-inner-frame Construction นั้นคือการประกอบเฟรมโครงสร้างทั้งหมดอย่างแข็งแรงทีเดียว ต่างจากแบบเดิมที่ตัวรถจะถูกสร้างขึ้นโดยการประกอบส่วนบน และส่วนล่างแยกกัน แล้วค่อยนำมาเชื่อมประกอบเข้าด้วยกันภายหลัง ซึ่ง Full-inner-frame Construction นั้นจะช่วยให้ตัวถังบิดตัวน้อยลง  และลดน้ำหนักของตัวรถโดยรวม

 

 

เครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง
Engine & Drivetrain

e-BOXER Hybrid

เครื่องยนต์เบนซิน Boxer 4 สูบ DOHC 16 วาล์ 2.0 ลิตร 1995 ซีซี กระบอกสูบ X ระยะช่วงชัก: 84.0 × 90 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 ฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงตรงสู่ห้องเผาไหม้ direct injection แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 194 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับระบบ e-BOXER มอเตอร์แบบ Permanent magnet AC synchronous ซึ่งให้แรงม้าสูงสุด 16.7 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 66 นิวตันเมตร เก็บพลังงานในแบตเตอรี่ Lithium Ion battery (13.5 kw/118.4V/4.8Ah)

ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ LinearTronic CVT มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า FWD และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Active Torque Split AWD System

 

 

ระบบบังคับเลี้ยว
Steering Wheel

เป็นพวงมาลัยแบบ Rack & Pinion ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า Dual-pinion Electric Power วงเลี้ยวแคบสุด 5.4 เมตร

ระบบกันสะเทือน
Suspension 

  • ด้านหน้า เป็นแบบอิสระ Independent strut
  • ด้านหลัง เป็นแบบอิสระ independent double-wishbone

ระบบห้ามล้อ
Brake

  • ด้านหน้า เป็นจานเบรกแบบมีครีบระบายความร้อน
  • ด้านหลัง เป็นจานเบรกแบบมีครีบระบายความร้อน

ระบบเสริมแรงเบรกด้วยไฟฟ้า Electric Brake Booster

   

 

ด้านหน้ารถปรับตำแหน่งฝากระโปรง รวมถึงตำแหน่งเส้นสายให้สูงกว่าเดิม เพื่อเพิ่มความรู้สึกแข็งแกร่ง ถัดลงมาเป็นไฟหน้า Full LED ซึ่งมีเส้นสายเชื่อมต่อกับกระจังหน้า ซึ่งมาพร้อมฟังก์ชั่น LED Cornering Light ครั้งแรกของ Subaru ที่ทำงานเมื่อหักเลี้ยวในเวลากลางคืนเพื่อเพิ่มความสามารถในการมองเห็น

บริเวณด้านข้างของตัวรถ พลาสติกซุ้มล้อถูกปรับให้มีความหนาขึ้นกว่าเดิมสอดรับกับล้ออัลลอยซึ่งมีขนาด 18 นิ้ว ซึ่งใหญ่ขึ้นกว่า Subaru XV รุ่นเดิม และรัดด้วยยางขนาด 225/55R18 กระจกบานหลังปรับปรุงให้มีความลาดเอียงมากขึ้น เพื่อให้รถดูมีความแน่นหนา ทั้งนี้ตัวถังภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 9 สี

    

 

ภายในห้องโดยสาร คอนโซลหน้าถูกออกแบบแบบ Multi-layered structure พร้อมการเลือกใช้วัสดุตกแต่งแบบ Multi-material โดยรวมหน้าจะคล้ายกับ Subaru XV รุ่นเดิม แต่แตกต่างตรงที่หน้าจอกลางถูกเพิ่มขนาดเป็น 11.6 นิ้ว ตามสมัยนิยม เบาะนั่งภายในสำหรับตลาดญี่ปุ่นมาพร้อมกับวัสดุหุ้มเบาะ 3 แบบ ได้แก่ หุ้มด้วยผ้า fabric หุ้มด้วยผ้า tricot และหุ้มด้วยหนัง

ตัวเบาะนั่งถูกออกแบบใหม่ เพิ่มการรองรับช่วงกระดูกเชิงกราน (Pelvis) เพื่อลดแรงสั่นสะเทือนที่จะถูกส่งขึ้นไปยังส่วนบนของร่างกาย เมื่อเข้าโค้ง หรือขับบนถนนขรุขระ นอกจากนั้นแล้วยังมีการปรับปรุงจุดยึดเบาะ ให้ยึดกับตัวรถโดยตรง กล่าวคือรางเบาะจะถูกยึดกับโครงสร้างตัวถังโดยตรง อีกทั้งยังมีการปรับปรุงเรื่องการเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกรถ เช่นการเพิ่มการใช้วัสดุซับเสียงแบบ High-attenuation Mastic ที่โครงสร้างหลังคา เพื่อลดแรงสั้นสะเทือนจากหลังคา

บริเวณธรณีประตู และฝากระโปรงท้าย มีพลาสติดสีดำพร้อมกลัดลวดลายอันได้รับแรงบันดาลใจมาจากภูเขา โดยทาง Subaru กล่าวว่านอกจากจะช่วยป้องกันรอยขีดข่วนแล้ว ยังชวนให้นึกถึงกิจกรรมที่ผู้ใช้งานสามารถทำกับ Subaru Crosstrek อีกด้วย

   

 

ระบบความปลอดภัย  มาพร้อมระบบ EyeSight เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งได้รับการปรับปรุงในหลายองค์ประกอบ ดังนี้

  • กล้อง stereo camera ถูกออกแบบใหม่ ให้มีองศาการตรวจจับวัตถุที่กว้างมากขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า รวมถึงได้รับการปรับปรุง Software ให้มีความแม่นยำมากขึ้น
  • กล้อง wide-angle monocular camera สำหรับระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ถูกปรับปรุงใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับมอเตอร์ไซค์ รวมถึงคนเดินถนน
  • เพิ่ม Radar ด้านข้างบริเวณหน้ารถ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุกับ รถยนต์ รถจักยาน รวมถึงคนเดินถนน บริเวณทางแยก
  • กล้องรอบคัน 3D top-down view แสดงผลได้ดียิ่งขึ้นผ่านหน้าจอกลางที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น
  • Electric Brake Booster ช่วยเสริมแรงเบรกด้วยไฟฟ้า และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ pre-collision braking ให้ตอบสนองเร็วขึ้น รวมถึงช่วยการทำงานของระบบ all-speed adaptive cruise control ให้เบรกเร็วขึ้นในสถานการร์ฉุกเฉิน เช่น เมื่อโดยรถยนต์คันอื่นปาดเข้ามาในเลนกระทันหัน หรือเมื่อโดนจักรยานตัดหน้า

    

รายละเอียดทั้งหมดของ All NEW Subaru Crosstrek e-BOXER Hybrid เวอร์ชั่นไทย สามาติดตามต่อได้ทาง www.Headlightmag.com


อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำตลาดของ TC Subaru ในปี 2025 ได้ที่นี่

มาแน่ปีหน้า ! TC Subaru เตรียมเปิดตัวรถยนต์ 5 รุ่นในปี 2028 ประเดิมด้วย Forester e-BOXER และ Crosstrek e-BOXER