BYD เปิดตัว Xia รถ MPV ที่ใช้พื้นฐานร่วมกันกับ Denza D9 หลังจากมีภาพหลุดรถทดสอบพรางตัวมาพักใหญ่ โดยจะเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูล Dynasty ซึ่งราชวงศ์ Xia นับว่าเป็นราชวงศ์แรกที่มีจารึกในประวัติศาสตร์ของประเทศจีน นอกเหนือไปจากราชวงศ์ Han Tang Qin Song และ Yuan
Xia มาพร้อมขุมพลัง Hybrid เจเนอเรชั่นที่ 5 หรือ DM–i hybrid technology ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปหมาดๆ กับ Seal DM-I เมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพในการใช้พลังงานเพื่อมอบอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ลดลง
งานออกแบบภายนอกของ BYD Xia มาพร้อมความแตกต่างเฉพาะตัว โดยเลือกใช้กระจังหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ กินพื้นที่จนถึงด้านล่างของตัวรถ สำหรับส่วนอื่นๆ ยังคงได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพื่อนร่วมรุ่นในค่าย โดดเด่นด้วยวัสดุโครเมี่ยมเพิ่มความหรูหรา พร้อมด้วยขอบกระจังหน้าด้านบนสีเงินประทับด้วยตรา BYD เช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในตระกูล Dynastyseries
มิติตัวถังรถ
- ความยาว 5,145 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,970 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,805 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 3,045 มิลลิเมตร
Xia มีความยาวตัวถังสั้นกว่า Denza D9 อยู่ 105 มิลลิเมตร กว้างกว่าอยู่ 10 มิลลิเมตร และเตี้ยกว่าอยู่ 115 มิลลิเมตร
ด้วยความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของ Denza D9 ที่กวาดยอดขายไปได้จำนวนกว่า 10,000 คันต่อเดือน ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา โดยในเดือนกรกฎาคม 2024 Denza D9 ขายไปได้จำนวน 9,030 คัน คิดเป็นสัดส่วน 87% ของยอดขายรายเดือนของ Denza ทั้งหมด ตามสถิติยอดขายที่ทางสำนักข่าวท้องถิ่น CnEVPost show ได้รายงานไว้
งานออกแบบภายในยังคงไม่มีภาพให้ชมอย่างเป็นทางการ แต่จะมาพร้อมกับการจัดการรูปแบบเบาะนั่ง 3 แถว 2+2+3 รวมเป็น 7 ที่นั่ง พร้อมด้วยการออกแบบคอนโซลตามแนวทางรุ่นเดียวกันกับรุ่น Qin L และ Song L DM-i BYD Xia จะมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ DiPilot ADAS system และระบบปฏิบัติการ DiLink 150 cockpit system
ขณะที่ช่วงล่างแบบ DiSus-C electromagnetic system ที่สามารถปรับความแข็งอ่อนได้ตามความเหมาะสม แต่จะไม่มีช่วงล่างแบบถุงลมหรือ DiSuS-A air suspension ให้เลือกแต่อย่างใด
ในส่วนของขุมพลังที่จะเลือกใช้แบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 5 Hybrid DM-I ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินความจุ 1.5 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 154 แรงม้า จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้พละกำลังสูงสุด 268 แรงม้า ทั้งนี้ ข้อมูลอย่างเป็นทางการจะต้องรอให้ทาง BYD เปิดเผยอีกครั้ง
ที่มา: Carnewschina