BMW ฮึดจริงอะไรจริงกับรถยนต์บนพื้นฐานแพลทฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้าอย่างหนักและมุ่งหมายให้แบรนด์ Mini เป็นผู้นำรถยนต์บนแพลทฟอร์มรุ่นใหม่นี้ด้วย รถยนต์ Mini รุ่นแรกที่ใช้แพลทฟอร์ม UKL นั่นก็คือ Mini Cooper Modelchange ในปี 2013

ทำไมต้องให้ Mini Cooper หรือ Mini ตัวถังมาตรฐานเป็นตัวเริ่มต้นแพลทฟอร์มใหม่นี้ก็เพราะว่ามันเป็นรถรุ่นสำคัญ”ที่สุด” ในตระกูล Mini ทุกตัวถัง ทั้งการรับรู้ความเป็น Mini และยอดขาย ที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือทิศทางใหม่ของ Mini Cooper จะไม่ใช่เป็นรถที่ขับสวย ๆ ช่วงล่างกระด้างจนลำไส้ทำงานผิดปกติเสียด้วย

Mr. Adrian van Hooydonk ผู้อำนวยการออกแบบ BMW เปิดเผยข้อมูลสำคัญกับเว็บ Auto Express ว่า Mini เจเนเรชั่นที่ 3 จะเป็นรถที่พวกเขาแอบทดลองบางสิ่งบางอย่างอยู่ โดยมอบหมายให้ Mr. Anders Warming เป็นผู้รับผิดชอบการออกแบบเจเนเรชั่นใหม่ล่าสุดซึ่งเขาจะพยายามคิดภาษาการออกแบบในแบบอย่างที่เขาคิด และมันก็จะเป็นต้นแบบการออกแบบ Mini ตัวถังใหม่ ๆ ด้วย

Mini เจเนเรชั่นใหม่จะออกแบบกระจกบังลมตั้งชันขึ้น (เมื่อมองจากด้านข้างบริเวณเสา A ดูตั้งชันขึ้นแต่ตัวกระจกบังลมยังมีความลาดอยู่เหมือนเดิม ดูคล้าย ๆ รถเคคาร์ทรงสูงบางรุ่น, เส้นขอบกระจกจะเฉียงขึ้นเล็กน้อย, ชุดกระจังหน้าและไฟหน้าดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

Mini โฉมใหม่จะวางบนพื้นฐานแพลทฟอร์ม UKL ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบันทำให้มันมีเนื้อที่ห้องโดยสารใหญ่ขึ้น มีเนื้อที่ห้องสัมภาระขนาดพอ ๆ กับแฮทช์แบคทั่ว ๆ ไปเพราะของเดิมเล็กมาก ๆ รวม ๆ แล้ว Mini จะมีเนื้อที่ภายในทั้งหมดพอ ๆ กับ Audi A1 เลยทีเดียว

นอกจากนี้ Mini โฉมใหม่ก็เน้นการขับขี่ที่สบายและความปราณีตมากขึ้น และยังมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะมีเวอร์ชัน 5 ประตูเจาะกลุ่มครอบครัวขนาดเล็กอีกด้วย

เครื่องยนต์กลไกอาจจะยกชุดมาจาก BMW 1-Series รุ่นล่าสุดทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 143 แรงม้า และเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรฉีดเชื้อเพลิงตรง 180 แรงม้าและ 220 แรงม้า

และความเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุด BMW อาจวางแผนติดตั้งเครื่องยนต์ 3 สูบทั้งเบนซินและดีเซลความจุ 1.5 ลิตร ให้พลัง 150 แรงม้าและ 130 แรงม้าตามลำดับ ดูตัวเลขแล้วคงจะแรงมากแต่เชื่อหรือไม่ว่ามันให้ความประหยัดถึง 42.51 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยค่าไอเสีย 80 กรัมต่อกิโลเมตร และยังมีความเป็นไปได้สูงมากว่าเครื่องยนต์ 3 สูบตัวนี้สามารถรีดแรงได้มากถึง 200 แรงม้าอีกด้วย