GMC เปิดตัวรถอเนกประสงค์รุ่นปรับโฉมกลางอายุตลาดสำหรับ Model Year 2025 เพื่อรองรับการต่อกรกับบรรดาคู่แข่งที่ต่างทยอยเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อกระแสความนิยมรถตรวจการณ์ตกแต่งแบบตัวลุย Off-Road จึงต้องรีบเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ AT4 Ultimate เพิ่มขึ้นด้วยในเวลาเดียวกัน เช่นเดียวกับรุ่นน้องที่เปิดตัวไปก่อนหน้าอย่าง GMC Terrain 

งานออกแบบภายนอกของ Yukon เป็นจุดที่เปลี่ยนแปลงไปไม่มาก แต่ก็พอจะสังเกตได้จากแรงบันดาลใจรถ EV รุ่น Sierra  ที่บริเวณด้านหน้า โดยเฉพาะไฟหน้าแบบแนวตั้ง ที่ติดตั้งภายใต้กรอบไฟรูปตัว C ซึ่งเป็นที่เดียวกันกับไฟ DRL เข้าชุดกันกับกระจังหน้าออกแบบใหม่ตามแต่ละรุ่นย่อย

ขณะที่ภายในมาพร้อมกับหน้าจอกลางขนาดใหญ่จุใจถึง 16.8 นิ้ว วางเป็นแนวตั้ง ซึ่งนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดของรถรุ่นใหม่นี้ ที่รวบรวมฟังก์ชั่นต่างๆ อาทิ แผนที่ ระบบปรับอากาศ ข้อมูลการขับขี่ และระบบความบันเทิงไว้ที่เดียวอย่างครบครัน ซึ่งติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทำให้Yukon ได้รับคอนโซลหน้าออกแบบใหม่ไปในตัว ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แต่ก็ยังมาพร้อมกับปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นพื้นฐานต่างๆ ครบครันเช่นเดิม พร้อมด้วยจอมาตรวัดแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่แบบ Full Digital พร้อมด้วยออฟชั่นจอขนาด 8 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

การอัพเกรดยังรวมไปถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัย อาทิ rear cross-traffic braking side bicyclist alert front pedestrian and bicyclist braking และ intersection auto emergency braking ในขณะที่ระบบ Super Cruise hands-free driving จะเป็นออฟชั่นเสริม เช่นเดียวกันกับกล้องตรวจจับวัตถุยามค่ำคืนด้วยรังสีความร้อนระยะไกล 

สำหรับรุ่นย่อยใหม่ AT4 Ultimate มาพร้อมกับการออกแบบภายนอกให้มีความดิบโหดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบันไดข้างขนาดใหญ่ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมด้วยช่วงล่างถุงลมที่สามารถยกสูงตัวรถได้อีก 2 นิ้ว ภายในมาพร้อมเบาะนั่งและวัสดุตกแต่งออกแบบเฉพาะรุ่น ขณะที่รุ่นท๊อป Denali Ultimate ยังคงเน้นความหรูหราขั้นสุด อาทิ ล้ออัลลอยขนาด 24 นิ้ว ชุดเครื่องเสียงจาก Bose พร้อมลำโพงจำนวน 22 ตำแหน่ง ภายในเลือกติดตั้งวัสดุตกแต่งไม้แท้และโครเมี่ยม ปิดท้ายด้วยเบาะนั่งพร้อมระบบนวดไฟฟ้า 16 จุด

ขุมพลังที่ติดตั้งอยู่ในฝากระโปรงก็ได้รับการอัพเกรดใหม่เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล Duramax 6 สูบเรียง ความจุ 3.0 ลิตร พร้อมพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 305 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 673 นิวตัน-เมตร โดยมีให้เลือกตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น AT4 

ที่มา: Motor1