เรียกได้ว่าลูกค้าที่ชาวสหรัฐฯ ที่สั่งจอง Volvo EX90 ไปก่อนหน้า มีเรื่องให้ลุ้นตลอดเวลา โดยประเด็นล่าสุดคือการขึ้นราคาจากที่เคยประกาศเอาไว้ 3,300 USD (ราว 116,000 บาท) หรือคิดเป็นประมาณ 4% ของราคารุ่นเริ่มต้นซึ่งเคยประกาศว่าอยู่ที่ 76,695 USD (ราว 2,699,000 บาท) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 แต่ตอนนี้ได้กลายเป็น 79,695 USD (ราว 2,804,000 บาท) ซึ่งบริษัทให้เหตุว่าเกิดจากต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น

ไม่เพียงแค่นั้น Volvo EX90 ล็อตแรกที่ผลิตขึ้นจากในสหรัฐฯ จะยังไม่สามารถใช้ระบบที่ทำงานร่วมกับ LiDAR ได้สองระบบคาดว่าเป็น ระบบแจ้งเตือนขณะข้ามแยก Cross-Traffic Alert และระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะเข้าโค้ง Curve Speed Assist ทั้งยังไม่สามารถใช้ Apple CarPlay ไร้สาย และการชาร์จแบบ bidirectional charging ทั้งนี้ Volvo ระบุว่าทั้งหมดจะแก้ไขได้ด้วยการ update software ซึ่งจะมีหลังส่งมอบรถให้ลูกค้าไม่นาน

 

ด้วยข้อมูลนี้จึงพอจะตีความได้ว่า Volvo ได้ติดตั้ง hardware มาให้กับ Volvo EX90 แล้วเพียงแต่ software ยังไม่พร้อม โดยผู้บริหารของ Volvo สหรัฐฯ ยังแสดงความมั่นใจว่าลูกค้าที่ลงทุนกับระบบความปลอดภัย จะเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจำหน่าย Volvo หลายรายมองว่าลูกค้าอาจไม่คิดเช่นนั้น และอาจนำไปสู่การถอนจองด้วย เพราะทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในขณะที่รถยนต์ยังไม่ได้เริ่มส่งมอบ

ไม่ใช่แค่ปัญหาสองประเด็นข้างต้น แต่สิ่งที่ลูกค้าของ Volvo EX90 เวอร์ชั่นสหรัฐฯ เจอก่อนหน้า มีทั้งส่งมอบรถช้ากว่าที่กำหนดไว้ตอนแรกนานหลายเดือน และยังมีรายงานว่ารถยนต์ lot แรกอาจเจอปัญหาระดับแบตเตอรี่ลดลงโดยเฉลี่ย 3% ต่อวัน หากจอดไว้โดยที่ไม่ได้ชาร์จ เนื่องจากคอมพิวเตอร์ประมวลผลอยู่ตลอดเวลาอย่างน้อย 72 ชั่วโมงแรกหลังปิดระบบ แต่มีข่าวว่าแก้ไขได้ด้วยการ update software ภายหลัง จึงน่าติดตามต่อว่าสุดท้ายแล้ว ยอดจองกับยอดส่งมอบ Volvo EX90 ในสหรัฐฯ จะห่างกันมากน้อยแค่ไหน

 

ที่มา: carscoops, insideevs