Mazda 3 มีรุ่นปรับอุปกรณ์ ตามมาที่ประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยความเปลี่ยนแปลงคือปรับรายการรุ่นย่อยให้เรียบง่ายกว่าเดิม ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อง่ายขึ้น โดยแบ่งเป็น 4 รหัสหลักเริ่มต้นจาก C รุ่นมาตรฐาน, S Package เน้นอุปกรณ์ความปลอดภัย, Touring เน้นความสะดวกสบายอย่างเบาะอุ่น และ Retro Sports Edition ที่ผสานคสามย้อนยุคและสปอร์ตยุคใหม่เข้าด้วยกัน
Mazda 3 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น รุ่นปรับอุปกรณ์ ยังสามารถติดตั้ง Black Appearance Package ที่เปลี่ยนล้อและกระจกมองข้างเป็นสีดำ ทุกรุ่นย่อยเพิ่มระบบแจ้งเตือนลืมผู้โดยสารหรือสัมภาระไว้เบาะหลัง นอกจากนั้น ทุกรุ่นยกเว้นรุ่น C เพิ่มระบบ Amazon สั่งการด้วยเสียงควบคุมระบบปรับอากาศ, ระบบปรับอุ่นพวงมาลัย – เบาะ, ระบบนำทาง และรับสาย – โทรออก พร้อมทั้งเพิ่ม Mazda Online ให้ผู้ขับขี่ค้นหาข้อมูลออนไลน์ รวมถึงช่องจอดรถที่ว่าง
ขุมพลังของ Mazda 3 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น รุ่นปรับอุปกรณ์ มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบเช่นเคย ดังข้อมูลต่อไปนี้
SKYACTIV-G 1.5
เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 1,496 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 74.5 x 85.8 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1 กำลังสูงสุด 111 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อคู่หน้า
e-SKYACTIV-G 2.0
เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 1,997 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 83.5 x 91.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1 กำลังสูงสุด 156 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 6.9 แรงม้า (PS) ที่ 1,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 49 นิวตันเมตร ที่ 100 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อคู่หน้า หรือ ขับเคลื่อนสี่ล้อ
SKYACTIV-D 1.8
เครื่องยนต์ดีเซล แบบ 4 สูบ ขนาด 1,756 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 79.0 x 89.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 14.8 : 1 กำลังสูงสุดเพิ่มจาก 130 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อคู่หน้า หรือ ขับเคลื่อนสี่ล้อ
Mazda 3 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น รุ่นปรับอุปกรณ์ เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2024 พร้อมรับจองทันทีผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ และมีกำหนดการเริ่มส่งมอบในช่วงต้นเดือนตุลาคม สนนราคาจำหน่ายที่นั่น โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย แบ่งตามประเภทตัวถังได้ดังนี้
- ตัวถัง Fastback ราคา 2,209,900 – 3,986,400 เยน (ราว 528,000 – 952,000 บาท)
- ตัวถัง Sedan ราคา 2,577,300 – 3,265,900 เยน (ราว 616,000 – 780,000 บาท)
ที่มา: Mazda