MG เซอร์ไพรซ์กลางงานมหกรรมโชว์รถสปอร์ตและรถคลาสสิคประจำปีของสหราชอาณาจักร 2024 Goodwood Festival of Speed เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2024 ด้วยการนำรถสปอร์ตต้นแบบรุ่น Cyber GTS Concept หรือเวอร์ชั่นหลังคาแข็งของ Cyberster วิ่งคู่กันกับรถ SUV เจเนอเรชั่นที่ 2 อย่าง HS เวอร์ชั่นพวงมาลัยขวา ที่เปิดตัวเป็นที่แรกในโลกก่อนประเทศจีนเสียอีก เพื่อเป็นการส่งสัญญาณการทำตลาดของ HS รุ่นใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้

โดย MG HS รุ่นใหม่นี้ถูกสร้างขึ้นบนงานวิศวกรรมพื้นฐานร่วมกันกับ Roewe RX5 เจเนอเรชั่นที่ 3 ภายใต้เทคโนโลยีของ SAIC ด้วยเส้นสายที่ส่งทอดต่อกันมา ที่ตัวรถมีความอ่อนช้อยมากยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ที่ซ่อนไฟหน้าทรงเพรียวไว้ที่ด้านข้าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ลวดลายของกระจังหน้า ขณะที่ช่องดักอากาศและไฟตัดหมอกออกแบบให้ซ่อนตัวอย่างแนบเนียน

 

ด้านข้างติดตั้งมือเปิดประตูแบบปกติทั่วไป ไม่ใช่แบบเรียบเนียนไปกับตัวรถเหมือนรถรุ่นใหม่ๆ อีกทั้งยังมาพร้อมล้ออัลลอยลาย 5 ด้าน รัดด้วยยางจาก Bridgestone Alenza ด้านท้ายมาพร้อมกับไฟท้ายแบบลากยาวตลอดความกว้างตัวถังตามสมัยนิยม นอกจากนี้เส้นสายของฝากระโปรงท้ายยังมีความเรียบง่ายอีกด้วย เพิ่มเติมความสปอร์ตด้วยแผ่นดิฟฟิวเซอร์สีดำแต่งด้วยสีดำเงา เข้าชุดกันกับปลายท่อไอเสียชุบโครเมี่ยม พร้อมทางเลือกสีตัวถังภายนอกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว White Pearl สีดำ Black Pearl สีเงิน Sterling Silver Metallic สีเทา Hampstead Grey Metallic และ สีแดง Dynamic Red

มิติตัวถังของ HS รุ่นใหม่นี้จะมีความยาว 4,655 มิลลิเมตร กว้าง 1,890 มิลลิเมตร สูง 1,664 มิลลิเมตร และความยาวฐานล้อ 2,765 มิลลิเมตร ซึ่งใกล้เคียงกันกับมิติตัวถังของ Roewe RX5

 

งานออกแบบภายในมาพร้อมหน้าจอมาตรวัดแสดงผลคู่กับหน้าจอกลางขนาด 12.3 นิ้ว ที่มาพร้อมการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto และเซนเซอร์ถอยหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ขณะที่ออฟชั่นเครื่องเสียงแบบ 8 ลำโพง จาก 6 ลำโพง รวมไปถึงกล้องมองรอบคัน 360 องศา แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย รวมไปถึงเบาะปรับด้วยไฟฟ้า และระบบอุ่นเบาะทั้งเบาะคู่หน้า ขณะที่ความจุห้องเก็บสัมภาระที่มีให้ใช้งาน 507 ลิตร

 

สำหรับทางเลือกขุมพลังสำหรับตลาดสหราชอาณาจักรจะมีทั้งหมด 2 รูปแบบ ได้แก่

เครื่องยนต์เบนซินความจุ 1.5 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้พละกำลังสูงสุด 169 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 275 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ แบบ dual-clutch หรือ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ให้อัตราเร่งจากความเร็ว 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ที่ 9.4 วินาที สำหรับเกียร์ธรรมดา และ 9.6 สำหรับเกียร์เกียร์อัตโนมัติ

ขณะที่ขุมพลัง Plug-in hybrid ที่ใช้ร่วมกันกับ Roewe RX5 ที่เรียกว่า PHEV D5X ที่จะวางจำหน่ายตามมาในภายหลังช่วงเดือนกันยายน 2024 ที่ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์เบนซินความจุ 1.5 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 142 แรงม้า (PS) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลังสูงสุด 209 แรงม้า (PS) ทำให้อัตราเร่งจากความเร็ว 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ที่ลดลงเหลือ6.8 วินาที ทำงานด้วยแบตเตอรี่ 24.7 kWh ที่ให้ระยะทางด้วยโหมดพละกำลังไฟฟ้าล้วนได้ถึง 121 กิโลเมตร

ราคาจำหน่ายเริ่มต้นในสหราชอาณาจักรเริ่มต้นที่ 24,995 ปอนด์ หรือประมาณ 1,171,936 บาท สำหรับรุ่นเริ่มต้นเครื่องยนต์สันดาปภายใน ขณะที่รุ่นขุมพลัง PHEV จะมีราคา 31,495 ปอนด์ หรือประมาณ 1,477,150 บาท ขณะที่การวางจำหน่ายในประเทศจีนบ้านเกิดจะต้องใช้เวลาในการอนุมัติผ่านทางกระทรวงอุตสาหกรรมก่อน

ที่มา: Carnewschina