Auto Alliance Thailand (AAT) โรงงานร่วมทุน Ford และ Mazda ฉลองประวัติศาสตร์การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ผลิตรถยนต์ครบ 4 ล้านคัน ยันลงทุนเพิ่มในอนาคต !

 

โรงงาน AAT เป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่ก่อตั้งขึ้นใน 1995 จากการร่วมทุนระหว่าง Ford Motor Company และ Mazda Motor Corporation เพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน (Ford Ranger และ Mazda Fighter ในยุคนั้น) สำหรับจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ โดยวันที่ 12 มิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา มีการฉลองหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย จากการผลิตรถยนต์ครบ 4 ล้านคัน สำหรับรถคันที่ 4 ล้าน ที่ออกจากสายการผลิตเป็นรถยนต์ Ford Everest สีขาว

โรงงาน AAT มีศักยภาพในการผลิตและจัดส่งชุดชิ้นส่วนรถกระบะขนาด 1 ตัน เพื่อสนับสนุนโรงงานของ Ford และ Mazda ในประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ และได้ขยายฐานการผลิตสำหรับรถยนต์นั่งในปี ในปี 2007 โดยทั้ง Ford และ Mazda ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทำให้มูลค่าการลงทุนร่วมของทั้ง 2 บริษัทในปัจจุบันอยู่ที่ 2,162 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 79,000 ล้านบาท

 

ปัจจุบันโรงงาน AAT มีกำลังการผลิตรถเพื่อการพาณิชย์และรถยนต์นั่งรวมกันทั้งสิ้น 270,000 คันต่อปี โดยผลิตเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปทั่วโลกกว่า 171 ประเทศ มีสัดส่วนการส่งออกอยู่ที่ประมาณ 65% โดยตลาดหลักที่มียอดส่งออกมากที่สุดคือประเทศออสเตรเลีย

รถยนต์รุ่นที่ผลิตในปัจจุบัน ได้แก่

  • Mazda 2
  • Mazda 3
  • Mazda CX-3
  • Mazda CX-30
  • Ford Ranger
  • Ford Everest

 

มร. ฮิโรโนริ ทานากะ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคอาเซียนของ Mazda กล่าวว่า

“Mazda ขอใช้โอกาสในการร่วมเฉลิมฉลองกับความสำเร็จของ AAT ครั้งนี้ ให้มั่นใจว่าเราจะเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ร่วมกันต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้กระบวนการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยครบวงจรมากที่สุด รวมถึงการส่งเสริมให้ธุรกิจของ Mazda ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งภายในประเทศและการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก

Mazda Motor Corporation ได้ก่อตั้ง บริษัท Mazda Powertrain Manufacturing (Thailand) จำกัด หรือ MPMT เพื่อทำการผลิตชุดเกียร์อัตโนมัติแห่งแรกขึ้นในประเทศไทยและเป็นครั้งแรกที่สร้างโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัตินอกประเทศญี่ปุ่น โดยมีกำลังการผลิต 400,000 ยูนิตต่อปี และผลิตเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ จำนวน 100,000 เครื่องต่อปี เพื่อส่งออกไปทั่วโลกและป้อนให้กับโรงงาน AAT

ด้วยศักยภาพและความพร้อมของ AAT และ MPMT ในการควบคุมคุณภาพของการผลิต รวมถึงความพร้อมของผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ ทั้งนี้ Mazda ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย โดย Mazda วางแผนเพิ่มเงินลงทุนในโรงงานทั้ง 2 แห่งเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตและส่งออกที่สำคัญในภูมิภาคนี้ รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่และเทคโนโลยีแห่งอนาคต

ท่ีมา : Mazda & Ford