Mazda 3 เวอร์ชั่นสหรัฐฯ มีรุ่นปรับอุปกรณ์ตามมาแล้ว ในฐานะรุ่นปี 2025 ซึ่งความเปลี่ยนแปลงคือรุ่นมาตรฐานหรือรุ่น S มีราคาถูกลงจากรุ่นปี 2024 โดยในตัวถัง Sedan ราคาลดลงจากเดิม 220 USD (ราว 8,000 บาท) ส่วนรุ่น S ตัวถัง Hatchback พึ่งเสริมเข้ามาใหม่ ถูกลงจากรุ่นมาตรฐานของรุ่นปี 2024 ลงมา 740 USD (ราว 26,000 บาท) แต่รุ่นย่อยอื่นปรับราคาขึ้นอีก 300 USD (ราว 10,000 บาท)
อุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น S ของ Mazda 3 เวอร์ชั่นสหรัฐฯ รุ่นปี 2025 มีทั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ i-Activsense, หน้าจอแสดงผลขนาด 8.8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อม Mazda Connect ทั้งยังมี in-car Wi-Fi ให้ทดลองใช้ฟรี 2GB หรือ 3 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ในรุ่นย่อย S Select Sport เพิ่มระบบ Alexa Built-In ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อ Smart Connect ให้ผู้ขับขี่สั่งการจากระยะไกล ทั้งควบคุมคำสั่งในรถ หรือควบคุมอุปกรณ์ที่บ้านจากในรถ
ส่วนรุ่นย่อยอื่นมีระบบนำทาง Mazda Online Navigation ที่รองรับการ update แบบ over-the-air ขุมพลังของ Mazda 3 เวอร์ชั่นสหรัฐฯ รุ่นปี 2025 ยังคงเดิม โดยมีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือกด้วยกันสองแบบ ดังรายละเอียดโดยสังเขปต่อไปนี้
- Skyactiv-G 2.5 กำลังสูงสุด 191 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 252 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมทางเลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
- Skyactiv-G 2.5 เทอร์โบ กำลังสูงสุด 250 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 434 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
Mazda 3 เวอร์ชั่นสหรัฐฯ รุ่นปี 2025 เปิดตัวเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2024 โดยตัวถัง Hatchback จะเริ่มส่งมอบก่อนในฤดูร้อนของสหรัฐฯ หรือมิถุนายน – สิงหาคม สำหรับตัวถัง Sedan จะตามมาในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง หรือราวเดือนกันยายน สนนราคาจำหน่ายที่นั่น โดยแบ่งตามประเภทตัวถังได้ดังนี้
- ตัวถัง Sedan ราคา 23,950 – 35,800 USD (ราว 873,000 – 1,305,000 บาท)
- ตัวถัง Hatchback ราคา 24,950 – 36,950 USD (ราว 909,000 – 1,347,000 บาท)