ย้อนกลับไปในงาน Shanghai Auto Show 2021 ในประเทศจีน ได้มีเหตุประท้วงกลางพื้นที่จัดแสดงของ Tesla เมื่อมีผู้หญิงนิรนามคนหนึ่งใส่เสื้อคอกลมที่มีโลโก้ Tesla และข้อความ ‘เบรกเสีย’ บุกบูธ โดยเธอได้ขึ้นไปตะโกนบนหลังคารถคันที่จอดโชว์อยู่ แม้เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปห้ามและใช้ร่มบังก็ไม่เป็นผล ตามมาด้วยการเผยแพร่วีดีโอบรรยากาศบนโลกออนไลน์จนโด่งดัง ไม่ใช่แค่ในประเทศจีนแต่ดังไกลไปทั่วโลก จนนำไปสู่คดีฟ้องร้องระหว่าง Tesla และเธอซึ่งพึ่งมีบทสรุปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
สื่อท้องถิ่นของประเทศจีนได้รายงานว่าคดีความระหว่าง Tesla และสตรีนิรนามที่เปิดเผยชื่อแค่ว่า Zhang ได้มีการตัดสินแล้วเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2024 หลังจากไต่สวนซึ่งพบว่าจุดเริ่มต้น มาจากการที่พ่อของ Zhang นำ Tesla ของเธอไปขับแล้วเกิดอุบัติเหตุขับชนท้ายคันอื่น แถมยังนำไปสู่อุบัติเหตุซ้ำซ้อนชนกันหลายคัน โดยในตอนนั้นพ่อของ Zhang อ้างว่าเขาเหยียบเบรกแล้วแต่รถกลับเร่งความเร็ว จนเกิดอุบัติเหตุ
แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้เป็นความผิดของคนขับหรือพ่อของ Zhang ซึ่งไม่ได้เว้นระยะห่างจากคันหน้ามากพอ ที่จะหยุดรถได้ทัน ไม่ใช่เกิดจากรถขัดข้อง แต่ Zhang ไม่ยินยอมพร้อมโต้แย้งว่าระบบเบรกมีปัญหา จนนำไปสู่การประท้วงตามที่เห็น ซึ่งในระหว่างการไต่สวนเองนั้น Zhang ยอมรับว่าเธอไม่ได้ขอให้มีการตรวจสอบว่า Tesla มีระบบเบรกล้มเหลวจริงๆ หรือไม่ แต่เธอทำลงไปเพราะเป็นความเชื่อของเธอ
ศาล Shanghai Qingpu District People’s Court จึงตัดสินให้ Zhang มีความผิดฐานทำให้ Tesla เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยเธอต้องชดใช้ให้กับบริษัท ด้วยการออกแถลงการณ์ขอโทษต่อสาธารณชน รวมถึงชดเชยค่าเสียหายมูลค่า 172,275 หยวน (ราว 891,000 บาท) ให้กับบริษัทด้วย และที่น่าสนใจคือมีจำเลยอีกคนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ซึ่ง Tesla ได้ยื่นฟ้องแยกกันอีกคดี
จำเลยอีกรายคือ Feng Shiming สื่อท้องถิ่นของจีน โดย Tesla เชื่อว่าเขาเป็นผู้บงการให้ Zhang ประท้วงบริษัทตามที่เห็นในข่าว ทั้งยังเป็นผู้ที่เอาบัตรเข้างานสำหรับสื่อให้ Zhang ใช้ในวันที่เกิดเหตุดังกล่าวด้วย แม้ Feng จะปฏิเสธแต่ศาลตัดสินให้เขามีความผิด พร้อมกับสั่งให้เขาออกแถลงการณ์ขอโทษ Tesla ต่อสาธารณชน และชดใช้เงินให้กับบริษัทมูลค่า 250,000 หยวน (ราว 1,293,000 บาท)
FOR THE LOVE OF GOD SOMEONE TRANSLATE WHAT SHE IS SAYING!!!
pic.twitter.com/eSf09y0f7m— INVESTMENT HULK (@INVESTMENTSHULK) April 19, 2021