ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา Ford เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่เดิมพันสูงมากกับการเข้าสู่ตลาด EV โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ได้มีการประกาศว่า Ford จะเป็นแบรนด์ที่มีแต่รถยนต์ไฟฟ้าออกขายอย่างเดียวที่ยุโรป ในปี 2030 และเพื่อเป็นการหลีกทางให้ EV รุ่นใหม่ Ford ยังได้ปิดตำนานรถยนต์รุ่นที่อยู่คู่แบรนด์ไปหลายรุ่นทั้ง Ka+ ในปี 2019, Mondeo / EcoSport ในปี 2022, Fiesta / S-Max / Galaxy ในปี 2023 ไม่เว้นแม้แต่ Focus ที่จะยุติการผลิตในปี 2025

อย่างไรก็ตาม Ford อาจจะเปลี่ยนแผนการเป็นแบรนด์ EV ล้วนสำหรับตลาดยุโรปแล้วหลัง Martin Sander ตำแหน่ง General Manager ของ Ford ยุโรป ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าบริษัทเห็นความต้องการจากตลาดที่มากพอ อย่างรถยนต์ขุมพลัง plug-in hybrid บริษัทก็จะยังจำหน่าย (รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์) ต่อไป ก่อนที่จะยอมรับว่าความต้องการ EV จากตลาดในตอนนี้ ต่ำกว่าที่บริษัทได้ประเมินเอาไว้ในตอนแรก

 

Sander กล่าวเสริมว่า Ford ยังคงมั่นใจว่า ในระยะยาวรถยนต์ไฟฟ้าจะยังมีอนาคตที่สดใส และเราได้จะเห็นยอดขายพุ่งสูงขึ้น สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่จะมาแทนที่ รถยนต์เครื่องยนต์ที่ยุติการจำหน่ายไปก่อนหน้ามีทั้ง Explorer ขุมพลัง EV ซึ่งแชร์งานวิศวกรรมจาก VW ID.4 และรถยนต์ไฟฟ้าอีกรุ่นที่ใช้ platform แบบ MEB จาก Volkswagen เช่นกัน โดยทั้งสองรุ่นเตรียมเปิดตัวในเดือนมิถุนายนนี้

นอกจากนั้น จะยังมี Ford Puma รุ่นใหม่ขุมพลัง EV ตามมาในปีหน้า โดยผลิตขึ้นจากโรงงานในโรมาเนีย และก่อนหน้า Ford ยังได้ลงทุนมูลค่า 2,000 ล้าน USD (ราว 73,000 ล้านบาท) ในการปรับเปลี่ยนโรงงานในเยอรมนี ให้รองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย เรียกได้ว่าอยู่ในสภาะที่มาไกลกว่าเกินจะย้อนกลับมาผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แล้ว แต่อนาคตของทั้งสภาพตลาดและ Ford เองจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องติดตามกันต่อ

 

ที่มา: motor1, carscoops