ปล่อยรูปยั่วมาหลายคราก็ได้เวลาสลัดผ้าคลุมเสียทีกับ Mercedes-Benz C-Class Cabriolet
ซึ่งเป็นน้องเล็กเปิดประทุนคันล่าสุดจากค่ายดาวสามแฉกซึ่งพร้อมที่จะเปิดตัวในงาน Geneva
Motor Show นี้แล้วซึ่งสิ่งหนึ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับ C-Cabriolet คันนี้คือ W205 นั้นเป็นรถยนต์
ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นรถเปิดประทุนตั้งแต่ต้น ตัวถังจึงสามารถแรงกดต่างๆที่เกิดจากการที่ถอด
หลังคาออกได้อยู่แล้วนอกจากนี้ตัวถังด้านข้าง, ฝากระโปรงหน้า-หลังทำจากอลูมิเนียมอัลลอย
เช่นเดียวกับรุ่น Coupe อีกด้วย
พื้นฐานนั้นยังคงเป็นแบบ MRA หรือ Modular Rear Architecture ดังนั้นหน้าตาจึงเหมือน C-Coupe
ทุกประการ ภายนอกมาพร้อมกับกระจังหน้า Diamond, เส้นสายโครเมี่ยมรอบคันเพิ่มความดูดีตั้งแต่
บริเวณกระจกหน้าจนถึงเส้นสายรอบคันรถ สำหรับล้อที่ให้มานั้นมีขนาด 17 นิ้วเป็นมาตรฐานส่วนช่วงล่าง
นั้นเตี้ยลงกว่ารุ่นตัวถัง 4 ประตูอีก 15 มิลลิเมตร สำหรับตัวหลังคาผ้าใบนั้นสามารถเปิด-ปิดได้ภายในเวลา
20 วินาทีในขณะที่รถยนต์เคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
สีสันของผ้าหลังคานั้นเลือกสรรได้ตามใจนึกเหมือน S-Cabriolet กับ 4 เฉดสีประกอบไปด้วยสีน้ำตาลเข้ม,
สีน้ำเงินเข้ม, สีแดงเข้ม, และสีดำ สำหรับความจุในฝากระโปรงหลังจะอยู่ที่ 360 ลิตรเวลากางหลังคาแต่
เมื่อพับเก็บแล้วจะลดลงเหลือ 285 ลิตร สำหรับภายในสามารถเลือกโทนสีได้ถึง 5 เฉดสีตัดกับโครเมี่ยมสีเทา
ด้านพร้อมวัสดุตกแต่งถึง 13 ตัวเลือกตั้งแต่อลูมิเนียม, คาร์บอนไฟเบอร์, ไฟเบอร์กราส, และลายไม้ทั้งสีดำ
และสีน้ำตาล
ระบบเครื่องเสียงนั้นมาพร้อมกับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมลำโพงจาก Burmester และระบบนำทางที่
แสดงผลแบบ real time นอกจากนี้ยังมีออพชั่นเสริมเป็นตัวรับสัญญาณทีวีดิจิติล, ไวไฟ, และระบบควบคุม
ด้วยเสียง สำหรับระบบที่น่าสนใจภายในห้องโดยสารคือระบบ AIRCAP ซึ่งป้องกันลมมาหมุนวนภายในห้อง
โดยสารเวลาเปิดหลังคาและ AIRSCARF ซึ่งเป็นระบบที่เป่าลมร้อนบริเวณต้นคอให้ผู้โดยสารในวันที่อากาศเย็น
แต่อยากขับรถเปิดหลังคา
เครื่องยนต์มีให้เลือกมากถึง 8 รุ่นพร้อมตัวแรงน้องใหม่อย่าง C43 ด้วย ทุกรุ่นมาพร้อมกับระบบส่งกำลัง
เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะส่งกำลังลงล้อคู่หลัง ซึ่ง C220d และ C200 จะมีตัวเลือกระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4 Matic
ให้เลือกและให้อัตราเร่งเร็วกว่ารุ่นขับเคลื่อนล้อหลังอีก 0.2 วินาทีแต่ความเร็วสูงสุดจะด้อยลงไปเล็กน้อย ในขณะ
ที่รุ่น C400 และ C43 จะมาพร้อมกับระบบ 4 Matic เป็นมาตรฐาน ซึ่งข้อมูลปลีกย่อยนั้นมีดังต่อไปนี้
C220d ดีเซล 4 สูบแถวเรียง 2.2 ลิตรให้กำลังสูงสุด 172 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 40.78 กก-ม. (400 นิวตันเมตร)
ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ใน 8.3 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 231 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
C250d ดีเซล 4 สูบแถวเรียง 2.2 ลิตรให้กำลังสูงสุด 207 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 50.98 กก-ม. (500 นิวตันเมตร)
ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ใน 7.2 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 243 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
C180 เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 1.6 ลิตรให้กำลังสูงสุด 158 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 25.49 กก-ม. (250 นิวตันเมตร)
ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ใน 8.9 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 222 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
C200 เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 2.0 ลิตรให้กำลังสูงสุด 187 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 30.59 กก-ม. (300 นิวตันเมตร)
ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ใน 8.2 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 235 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
C250 เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 2.0 ลิตรให้กำลังสูงสุด 214 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 35.69 กก-ม. (350 นิวตันเมตร)
ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ใน 6.9 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 244 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
C300 เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 2.0 ลิตรให้กำลังสูงสุด 248 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 37.72 กก-ม. (370 นิวตันเมตร)
ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ใน 6.4 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
C400 4Matic เบนซิน V6 3.0 ลิตรให้กำลังสูงสุด 338 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 48.94 กก-ม. (480 นิวตันเมตร)
ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ใน 5.2 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
C43 4Matic เบนซิน V6 3.0 ลิตรให้กำลังสูงสุด 372 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 53.02 กก-ม. (520 นิวตันเมตร)
ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ใน 4.8 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
ช่วงล่างมีระบบ Air Suspension ให้เลือกเป็นออพชั่นเสริมซึ่งมาพร้อมกับพร้อมกับเพลาขับหน้า-หลังที่
สามารถปรับมุมได้ ส่วนระบบ Dynamic Select นั้นสามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้มากถึง 5 ระดับตั้งแต่
Eco, Comfort, Sport, Sport Plus, และ Individual สำหรับระบบความปลอดภัยต่างๆนั้นอัดแน่นมาให้
เช่นเคยไม่ว่าจะเป็น Attention Assist, Collision Prevention Assist Plus, Distrionic Plus, BAS Plus
และระบบช่วยถอยจอดพร้อมกล้องรอบคัน
ราคาค่าตัวของ Mercedes-Benz C-Cabriolet และกำหนดวางจำหน่ายยังไม่เป็นที่เปิดเผยในขณะนี้