BMW รุกตลาดรถ EV ด้วยงานออกแบบและโครงสร้างวิศวกรรมพื้นฐานใหม่หมดจดหรือที่เรียกว่า Neue Klasse architechture ซึ่งได้เปิดตัวกับรถตัวถังซีดานรุ่นแรกไปแล้วเมื่อปี 2023 แต่แล้วในปี 2024 BMW ต้องการสร้างกระแสอย่างต่อเนื่อง ด้วยการชิงเปิดตัวรถต้นแบบเวอร์ชั่นตัวถัง SUV ในนาม Neue Klasse X concept ซึ่งมีขนาดตัวถังใกล้เคียงกับ iX3 รุ่นปัจจุบัน แต่จะมาพร้อมแนวทางการออกแบบภายนอก-ภายในใหม่หมดจด เตรียมวางจำหน่ายตามหลังเวอร์ชั่นซีดาน

 

งานออกแบบของรถต้นแบบคันนี้ได้พลิกโฉมรถ SUV ขุมพลังไฟฟ้าล้วนไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่ iX เป็นรถที่มีเส้นสายที่กล้าหาญ โดยเฉพาะกระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ แต่สำหรับรถต้นแบบคันนี้ กลับเลือกที่จะใช้กระจังหน้าไตคู่แบบเล็ก ที่เปรียบเสมือนการนำแนวทางการออกแบบจากรถยุคเก่าจากรถรุ่น 2002 กลับมาใช้ใหม่ นับว่าเป็นการรับฟังเสียงตอบรับจากลูกค้าโดยตรง

 

อย่างไรก็ตาม BMW ได้ปรับใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะกระจังหน้าแบบเรืองแสงตามสมัยนิยม พร้อมด้วยกรรมวิธีในการผลิตชิ้นงานตัวถังที่ประณีตกว่ารถทั่วไป เปรียบเสมือนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 3D printing มาใช้กับการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ รวมไปถึงไฟคู่หน้าที่เลือกใช้แนวทางการออกแบบเช่นเดียวกับรุ่นซีดาน 

 

BMW เลือกใช้เส้นสายด้านข้างที่ลาดต่ำ พร้อมด้วยการปรับใช้แนวทางการออกแบบจากยุค 1960 มาใช้อย่างลงตัว เนื่องจากการหันมาใช้ EV platform โดยเฉพาะ จะทำให้ตัวรถมีความแตกต่างจากรถ SUV หรือที่ BMW เรียกว่า SAV รุ่นอื่นๆ ในค่ายพอสมควร ไฮไลท์อยู่ที่การสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารที่โปร่งโล่งกว่า iX3 รุ่นเดิม 

ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้ายที่มาพร้อมแนวทางการออกแบบที่หยิบยกมาจากรุ่นซีดาน โดดเด่นด้วยชิ้นงานภายในโคมไฟที่ผลิตจากกรรมวิธี 3D printing เช่นเดียวกัน 

สำหรับข้อมูลด้านประสิทธิภาพตัวรถที่สามารถทำได้ดียิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ เส้นสายที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานทางอากาศลดลง 20% พร้อมด้วยประสิทธิภาพของระบบเบรก ล้อและยางใหม่ ช่วยให้สามารถประหยัดพลังงานได้อีก 25%

 

ขุมพลังไฟฟ้าล้วนที่ BMW พัฒนาขึ้นใหม่หมดจด มาพร้อมสถาปัตยกรรมที่รองรับแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 800 V เพื่อให้กำลังไฟฟ้าสูงสุดขณะชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรงเพิ่มมากขึ้นอีก 30% ในขณะที่พละกำลังที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ก็ยังได้รับการปรับปรุงในฐานะ eDrive เจเนอเรชั่นที่ 6 เพื่อให้สามารถปรับปรุงระยะทางวิ่งสูงสุดต่อ 1 รอบการชาร์จได้อีก 30% เช่นกัน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากแบตเตอรี่รุ่นใหม่ ที่มีค่าความจุพลังงานต่อพื้นที่มากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

 

Neue Klasse X ได้สร้างบัญญัติใหม่แห่งการสั่งการและควบคุมตัวรถ โดยได้ยกเลิกปุ่มควบคุมอันเลื่องชื่ออย่าง iDrive controller และเปลี่ยนไปใช้พวงมาลัยแบบใหม่ที่เรียกว่า HyPersonX ที่มาพร้อมปุ่มควบคุมซึ่งทำงานร่วมกับระบบสั่งงานด้วยเสียงและท่าทาง โดยยังใช้จอกลางแบบเรียบง่ายในการแสดงผลข้อมูลเช่นเดิม เพิ่มเติมระบบ Panoramic Vision ที่จะแสดงข้อมูลที่จำเป็นในระดับสายตา ตลอดความกว้างของกระจกบังลมหน้า พร้อมด้วยฟังก์ชั่น 3D Head-Up Display display ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจัดการสถานการณ์ต่างๆ ระหว่างการขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ยังไม่นับรวมเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติรุ่นใหม่ที่ถูกติดตั้งไว้อีกด้วย

 

BMW จะเปิดตัวรถ EV ภายใต้ตระกูล Neue Klasse ทั้งหมดจำนวน 6 รุ่น นับตั้งแต่ปี 2025 ไปจนถึง 2027 ขณะที่ X3 รุ่นเครื่องยนต์สันดาปจะได้รับการวางจำหน่ายต่อไปในเจเนอเรชั่นสุดท้าย ซึ่งจะใช้งานวิศวกรรมพื้นฐานที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับเวอร์ชั่นขุมพลังไฟฟ้าล้วนนี้ โดยจะเปิดตัวก่อนในช่วงปลายปี 2024 นี้

ที่มา: Carscoops