ถึงแม้ Nissan ในช่วงระหว่างปี 2000-2006 อยู่ในกระบวนการคิดใหม่ทำใหม่กับรถยนต์ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จหลายรุ่นจากคำสั่งเบื้องบนของ Carlos Ghosn หลาย ๆ รุ่นก็ถือว่าประสบความสำเร็จในด้านการตอบสนองความต้องการลูกค้า แต่กลุ่มที่ถือว่ายังล้มเหลวอยู่นั่นก็คือกลุ่มตลาด C-Segment สำหรับคนทั่วโลก

หากย้อนหลังกลับไปตั้งแต่ปี 1991 เป็นต้นไป Nissan ยังไม่สามารถทำรถ C-Segment พวกตระกูล Sunny/Sentra หรือแม้กระทั่งพวก Pulsar ได้ดึงดูดใจเท่ากับยุครุ่งเรืองในระหว่างปี 1966-1990 ซึ่งมีคุณสมบัติที่ท้าทายและน่าสนใจมากกว่า ได้แก่ รูปลักษณ์ที่ไม่จืดชืดนัก กลาง ๆ บางครั้งก็น่าดึงดูดมาก, มีเทคโนโลยีทันสมัยตลอดเวลา, เป็นมิตรกับผู้ใช้ทุกคน, สมรรถนะเป็นที่ยอมรับ, ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงลำดับต้น ๆ ของตลาด, ห้องโดยสารกว้างขวางพอเมื่อเทียบกับรถยุคหนึ่ง

ถ้าจะให้สรุปก็คือรถคอมแพคท์ระหว่างปี 1991-2004 Nissan แทบจะไม่มีคุณสมบัติตามย่อหน้าข้างบนครบถ้วนเหมือนในอดีต ทำให้คุณค่าหรือมนต์เสน่ห์ความเป็นรถไว้ใจได้ของ Nissan เริ่มมลายหายไป

การกำเนิดรถยนต์ตระกูล Nissan Tiida ก็หวังหมายเปลี่ยนแปลงไปสู่ความต้องการขั้นพื้นฐานของรถกลุ่ม C-Segment ให้ได้ แต่น่าเสียดายที่ทีมพัฒนาตีโจทย์ผิดไปไกล คนทั่วโลกต้องการรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์ดึงดูดใจมากกว่านี้ แต่ไม่จำเป็นต้องสปอร์ตมาก ๆ, ขนาดตัวถังต้องดูใหญ่และสง่าขึ้น, การขับขี่ต้องมีอะไรมากกว่านี้ ถึงจะเป็นรถที่มีสมรรถนะดี, ประหยัดน้ำมันอยู่ก็ตาม

ว่ากันง่าย ๆ ก็คือ Nissan Tiida รุ่นปัจจุบันเป็นรถที่ดีแต่ “ไม่ตรงกับความต้องการของคนส่วนใหญ่” (ยกเว้นคนญี่ปุ่นที่ชอบอะไรจืด ๆ แบบนี้) มันจึงขายไม่ได้มาก ถ้าเปรียบเสมือนอาหาร Tiida ก็จะเป็นพวกต้องการพริกน้ำปลาหรือเครื่องเทศและต้องเปลี่ยนพาชนะเสียใหม่มันถึงจะประสบความสำเร็จ

วันนี้ Nissan เรียนรู้ความผิดพลาดดังกล่าวและจัดการค้นหาความต้องการรถ C-Segment ของคนทั่วโลกเสียใหม่

ล่าสุด Nissan ก็จัดการเปิดตัว All New Tiida ในงาน AutoShanghai 2011 เรียบร้อยแล้ว สาเหตุที่ต้องเปิดที่จีนก่อนก็เพราะยอดขาย Nissan Tiida ตัวปัจจุบันทะลุทะลวงมากที่สุดในโลกนับตั้งแต่วางจำหน่ายในปี 2005 และปีล่าสุด 2010 ก็สามารถขายได้ 85,000 คัน และ Nissan ถือว่าตระกูล Tiida เป็นรถที่ขายดีลำดับต้น ๆ ของเขาเองและวางจำหน่ายมากถึง 165 ประเทศทั่วโลก (ถ้าไม่มีตลาดจีน, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลางมาช่วยนี่คงแย่แน่ ๆ)

 

ที่สำคัญเว็บไซต์ Headlightmag.com เป็นเว็บไซต์รายแรกที่ลงข้อมูลและรูปภาพของ All New Nissan Tiida เป็นเว็บแรกในประเทศไทย

เป้าหมายของ All New Nissan Tiida ก็คือการจับกลุ่มลูกค้าครอบครัวหรือคนรุ่นใหม่ที่ต้องการรถยนต์คุณภาพคุ้มค่าต่อชีวิต ด้วยจุดสนใจทั้งรูปลักษณ์ให้ความพรีเมี่ยม ปราดเปรียว, ผู้นำห้องโดยสารแสนสบายในตลาดคอมแพคท์ และปฏิวัติด้านระบบส่งกำลังใหม่ ซึ่ง Nissan ภูมิใจนำเสนอเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรเทอร์โบเป็นครั้งแรกในตลาดจีน

การพัฒนา All New Tiida มีคีย์เวิร์ดหลัก 2 คำ คือ ลื่นไหลและกระฉับกระเฉง มอบความรู้สึกใหม่ ๆ ได้แก่ ความพรีเมี่ยม นุ่มนวล, เส้นสายด้านข้างที่ลื่นลม, สัดส่วนตัวรถสมดุล และชิ้นส่วนตัวถังบางชิ้นถูกออกแบบให้ล้ำหน้า เช่น กระจังหน้า, โคมไฟที่มีรายละเอียด

All New Tiida ถูกขยายฐานล้อให้ยาวออกไปอีก 100 มม. กลายเป็น 2,700 มม. จนเคลมได้ว่ามีเนื้อที่ knee room ดีที่สุดในคลาส พร้อมทั้งขยายขนาดกระจกบังลมหน้าและกระจกมองข้างใช้งานง่าย เพื่อทัศนวิสัยที่ดีขึ้นลดความตึงเครียดขณะขับขี่

ดีไซน์ภายในห้องโดยสารถูกพัฒนาด้วยคีย์เวิร์ด 2 คำ คือ ความสงบและความประณีต ด้วยความสะดวกสบายโอบล้อมทั้งตำแหน่งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ให้ความหรูหรา มาตรวัดดูคล้ายรถยุโรป, แผงแดชบอร์ดออกแบบให้ดูกว้างพร้อมทั้งดีไซน์แผงคอนโซลกลางให้ดูลอย ๆ , เนื้อที่ห้องโดยสารให้ความสบายขณะขับขี่

ความสะดวดสบายในการขับขี่เป็นสิ่งที่คำนึงถึงมาก รถคันนี้ให้ทั้งความนุ่มนวล เบาะนั่งสบายลดการสั่นสะเทือนช่วยทำให้ลดความเมื่อยล้าขณะขับขี่ได้

ส่วนขุมพลังก็มีการพัฒนาขึ้นโดยใช้เครื่องยนต์บล๊อก 1.6 ลิตร HR16DE ที่พวกเรารู้กันว่าทั้งแรงและประหยัดอยู่แล้ว แต่ติดตั้งเทคโนโลยีใหม่เพิ่มเติม ได้แก่ เทคโนโลยีหัวฉีดคู่ใหม่ล่าสุด (แต่ไม่ได้ระบุว่าติดตั้งเทคโนโลยีวาล์วแปรผันคู่หรือไม่ แต่คาดว่าน่าจะติดตั้งเหมือนกับบล๊อก HR เวอร์ชันใหม่ทั่วโลก) พร้อมทั้งจับคู่กับเกียร์ XtronicCVT ผลลัพธ์คือการปล่อยค่าไอเสียที่น้อยลง, ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นจนผ่านมาตรฐานเข้มงวดของรัฐบาลจีนที่เข้าขั้นเฟส 3 แล้ว

 

Update 1 วันที่ 19 เมษายน 2011 เวลา 22.22 น : สเปคเครื่องยนต์บล๊อก HR16DE นอกจากจะติดตั้งเทคโนโลยีหัวฉีดคู่แล้วยังติดตั้งวาล์วแปรผันคู่ Dual CVTC ส่งผลให้มีพละกำลังถึง 125 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที (บล๊อกเก่า 109 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที)  แรงบิดสูงสุด 154 นิวตันเมตรหรือ 15.7 กิโลกรัมเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที (บล๊อกเก่า 15.6 กิโลกรัมเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที) ตัวเลขแรงม้ามากกว่า และใช้รอบต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบเครื่องบล๊อกเก่า
 
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่่เคลมจากโรงงาน รุ่นเกียร์ธรรมดาได้ 11.9 วินาที รุ่น Xtronic CVT ทำได้ 11.7 วินาที ทำตัวเลขได้ดีกว่าเดิม 0.1 วินาที

อัตราสิ้นเปลืองทำได้ดียิ่งกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ตัวเลขผลทดสอบหากวิ่งความเร็วเฉลี่ย 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะมีอัตราสิ้นเปลือง 5.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรหรือ 18.5 กิโลเมตรต่อลิตร

 
ผลทดสอบอัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐานรัฐบาลจีน รุ่นเกียร์ธรรมดาก็จะได้ตัวเลข 6.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 15.6 กิโลเมตรต่อลิตร รุ่นเกียร์ Xtronic CVT ทำได้ 6.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรหรือ 16.1 กิโลเมตรต่อลิตร ( เห็นผลชัดมากเมื่อเทียบกับ Tiida เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ รุ่นเดิมที่ทำได้ 7.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรหรือ 13.6 กิโลเมตรต่อลิตร)
 
คงจะเป็นอานิสงค์จากเทคโนโลยีเครื่องยนต์ยุคใหม่ ผนวกกับเกียร์ Xtronic CVT และน้ำหนักตัวรถที่เพิ่มขึ้นเพียง 40 กิโลกรัมโดยเฉลี่ย

 

ส่วนรายละเอียดเครื่องยนต์บล๊อก 1.6 ลิตรเทอร์โบ ยังไม่ระบุใน Press Release ก็เพราะว่านี่คือสเปคและบุคลิคของรุ่น 1.6 ลิตรธรรมดา

สรุปบุคลิคของ All New Nissan Tiida ใหม่คือสามารถตอบสนองขั้นพื้นฐานของรถยนต์กลุ่ม C-segment ได้พอดี ๆ มีมนต์เสน่ห์เหมือนตระกูล Sunny สมัยก่อนเพียงแต่ใส่เครื่องเทศความสปอร์ตแล้วก็ความพรีเมี่ยมของรถยนต์ระดับสูงตามยุคสมัยลงไป

ถึงแม้จะไม่ใช่รถแนวสปอร์ต 100% ที่ลูกค้าวัยรุ่นจะชอบที่สุด แต่สำหรับกลุ่มตลาดรถคอมแพคท์ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการในเรื่องของความไว้ใจได้ ความเป็นมิตรดูไม่ซับซ้อน ขับขี่ดี ประหยัดน้ำมัน ห้องโดยสารกว้างขวาง มีสไตล์ที่น่าสนใจ มากกว่าแค่ความสปอร์ตอย่างเดียว

ลูกค้าชาวจีนสามารถเป็นเจ้าของ All New Nissan Tiida ภายในเดือนพฤษภาคม 2011 ที่คลอดจากโรงงาน Dongfeng Nissan Huadu หลังจากนั้นจะทยอยเปิดตัวให้ครบ 130 ประเทศภายในปี 2014

ลูกค้าชาวไทยจะได้เป็นเจ้าของ All New Tiida ได้ภายในต้นปี 2013 เป็นอย่างเร็ว ตามหลังการเปิดตัว L12F เล็กน้อย