กรมศุลกากรของประเทศจีนได้รายงานว่าตลอดปี 2023 จีนได้ส่งออกรถยนต์รวมถึงแชสซีส์เป็นจำนวนราว 5,220,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 101,600 ล้าน USD (ราว 3,608,000 ล้านบาท) เติบโตขึ้นจากปีก่อน 69% โดยตัวเลขทั้งสองถือเป็นสถิติใหม่ของจีน ทั้งยังส่งผลให้แดนมังกรเป็นแชมป์ของประเทศ ที่ส่งออกรถยนต์มากเป็นอันดับ 1 ของโลก ทั้งในแง่ของจำนวนและมูลค่า

 

ส่วนแชมป์เก่าอย่างญี่ปุ่นนั้น แม้จะเปิดเผยแต่ตัวเลขส่งออกในเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2023 ไว้ที่ราว 3,990,000 คัน โตขึ้นจากปีก่อนหน้า 15% และคาดว่าจะปิดปีด้วยตัวเลขทั้งหมดราว 4,300,000 คัน ทำให้จีนที่ส่งออกรถยนต์ไปยังมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก สามารถประกาศแชมป์ได้ก่อนที่ญี่ปุ่นจะเปิดเผยตัวเลขสรุปเสียอีก เพราะแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ญี่ปุ่น จะมียอดส่งออกรถยนต์เป็นล้านคันในเดือนเดียว

แม้ว่าจีนจะเน้นการผลิตรถยนต์กลุ่มพลังงานใหม่ NEVs แต่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปกลับมียอดนำขาดที่ราว 3,520,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 54% ส่วนยอดส่งออกรวมของกลุ่ม NEVs อยู่ที่ราว 1,700,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 57% และถ้าให้เจาะเฉพาะกลุ่มยอดส่งออก NEVs จะสามารถแบ่งสัดส่วนได้เป็น EV ราว 90% และ PHEV ประมาณ 10% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเงินอุดหนุนผู้ซื้อ EV ที่ยุโรปในไตรมาส 4 ลดน้อยลง

 

นอกจากนั้น ยังมีการเผยรายชื่อ 10 อันดับ บริษัทจีนที่มียอดส่งออกรถยนต์มากที่สุดดังนี้

  • อันดับ 1. Chery Automobile มียอดส่งออก 922,830 คัน
  • อันดับ 2. SAIC Passenger Cars มียอดส่งออก 685,018 คัน
  • อันดับ 3. Tesla China มียอดส่งออก 344,078 คัน
  • อันดับ 4. Geely Automobile มียอดส่งออก 274,101 คัน
  • อันดับ 5. Great Wall Motors มียอดส่งออก 267,756 คัน

 

  • อันดับ 6. BYD Automobile มียอดส่งออก 242,765 คัน
  • อันดับ 7. Changan Automobile มียอดส่งออก 191,917 คัน
  • อันดับ 8. Wuling มียอดส่งออก 184,935 คัน
  • อันดับ 9. SAIC-GM มียอดส่งออก 100,006 คัน
  • อันดับ 10. Jiangsu Yueda Kia มียอดส่งออก 86,899 คัน

 

ที่มา: carnewschina