ใครที่ชอบรถโบราณอาจจะคุ้นชื่อ Opel GT ซึ่งเป็นสปอร์ตสองประตูผลิตขึ้นในปี 1968-1973 ก่อนที่
จะสูญหายไปตามกาลเวลาซึ่งขณะนี้ชื่อนี้ถูกนำกลับมาใช้ในรถยนต์ต้นแบบน้ำหนักเบาในรูปแบบตัวถัง
สปอร์ตสองประตูซึ่งจุดเด่นนั้นอยู่ที่ล้อหน้าที่เป็นสีแดงทั้งคู่ซึ่งนักออกแบบบอกว่าได้แรงบัลดาลใจมา
จาก skateboard และใช้สีแดงในการตกแต่งตัวถังลากยาวจาก A-pillar ลากยาวผ่าน roof line จนมา
บรรจบที่ C-pillar ซึ่งบริเวณสีแดงนี้จะมีเซนเซอร์ที่ไว้ใช้ในการเปิด-ปิดประตูด้วย

opel-gt-9017

หลังคานั้นเป็นกระจกทั้งบานรวมไปถึงประตูด้านข้างที่เป็นสีเดียวกับตัวรถด้วยแต่ Opel ได้ใช้ Reflective
Foil ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ในการทำฟิล์มโฆษณาที่แปะบนกระจกรถโดยสารนั้นเอง คุณสมบัติคือมองเข้าไป
ไม่ได้แต่มองออกมาเห็นชัดปกติทำให้ผู้โดยสารข้างในรู้สึกปลอดโปร่งเพราะมีกระจกรอบคันแม้ว่างาน
ออกแบบและขนาดตัวถังจะดูเล็กไม่ใช่น้อย

opel-gt-9020

เครื่องยนต์เป็นแบบ 3 สูบ 1.0 ลิตรเทอร์โบซึ่งหยิบยืมมาจาก Corsa และ Astra ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า
(PS) ที่ 5,000-6,000 รอบ/ นาทีและแรงบิดสูงสุด 17.33 กก-ม. (170 นิวตันเมตร) ที่ 1,800-4,500 รอบ/ นาที
ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะพร้อม Paddle Shift ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมงใน 8.0 วินาที
เนื่องจากนำหนักตังถังนั้นเบาเพียง 998 กิโลกรัมเท่านั้น

opel-gt-9023

Karl-Thomas Meumann ให้สัมภาษณ์ว่าส่วนตัวแล้วเขาอยากให้รถคันนี้ขึ้นสู่สายการผลิตจริงแม้เขาจะ
ยอมรับว่ารถรุ่นนี้จะไม่สร้างผลกำไรให้บริษัทแต่มันเป็นการคุ้มค้าในเรื่องภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่คุ้มค่ามาก
ซึ่งถ้าภาพลักษณ์ดีก็จะช่วยให้ขายรถตลาดอย่าง Astra ได้และการขายรถบ้านอย่างเดียวนั้นไม่สามารถช่วย
ส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูดีขึ้นมาได้

opel-gt-6916

Meumann ยอมรับว่าปัญหาคือเขาต้องการให้ GT มีน้ำหนักเบาและเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น
ซึ่งแชสซีย์รถที่ GM มีอยู่นั้นไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เจ้า GT ได้เลยเพราะคันที่เล็กสุดนั้นคือ Cadillac
ATS โดยที่ Meumann แย้มมาว่าในเมื่อทำเองไม่ได้ก็ต้องขอจากคนนอกแล้ว CEO บริษัทออกมาพูด
ถึงขนาดนี้นั้นเป็นไปได้ว่าเราอาจจะได้เห็น Opel GT อีกครั้งก็ได้ส่วนรถยนต์ต้นแบบคันนี้นั้นพร้อมที่จะ
เผยโฉมในงาน Detroit Motor Show ที่จะถึงนี้

opel-gt-8988

ที่มา : topgear, motortrend