ในที่สุด Hyundai ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว Ioniq รถขุมพลังทางเลือกใหม่ที่จะ Fight (อ่านสำเนียงทันสมัยต้องอ่านว่า “ไฟ่ว์”) กับ
บรรดา Dedicated Hybrid/EV ทั้งหลายที่ต่างยังมีจุดอ่อนที่ Hyundai มองเห็น แต่มันจะดีเลิศประเสริฐศรีแค่ไหนมาดู
กัน?

Hyundai กล้าเรียกสถานะใหม่ของ Hyundai Ioniq ว่ามันคือรถฉีกรูปแบบรถ Hybrid อันจำเจเป็นมาตรฐานทั่วไป นั่น
เป็นเพราะ Ioniq มีให้เลือกขุมพลังที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้าถึง 3 แบบ ได้แก่ Plug-in Hybrid, Hybrid มาตรฐาน
และรถไฟฟ้า 100% นับเป็นรายแรกที่กล้าให้ลูกค้าเลือกกันแบบไม่ต้องกั๊ก

ขุมพลังแรกที่จะมา Fight กับ Toyota Prius ก็คือขุมพลัง Hybrid ที่จับคู่เครื่องยนต์เบนซินบล็อก Kappa 1.6 ลิตร GDI
103 แรงม้า แรงบิด 147 นิวตันเมตร ผนวกกับมอเตอร์ไฟฟ้า 43 แรงม้า แรงบิด 170 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธี่ยม
ไอออนซึ่ง Hyundai เคลมว่าได้จัดการประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้ดีขึ้น 40%

ส่งกำลังขับเคลื่อนล้อหน้าที่คู่กับเกียร์ DCT ที่ถูกปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงสุดถึง 97.5% เคียงคู่กับขุมพลัง Hybrid

Hyundai เคลมว่า Ioniq Hybrid สามารถวิ่งในโหมดรถไฟฟ้าด้วยความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง, แบตเตอรี่
แพ๊คถูกซ่อนไว้ใต้เบาะหลังทำให้มีเนื้อที่ห้องโดยสารและห้องสัมภาระกว้างขวาง

Hyundai Ioniq ถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถังแบบใหม่สำหรับรถยนต์ Hybrid โดยเฉพาะ นั่นทำให้ Hyundai ต้องพัฒนาพื้น
ตัวถังที่ตอบโจทย์การขับขี่ที่สนุกสนานภายใต้ขุมพลังที่แตกต่างกันถึง 3 แบบให้ได้ โครงสร้างตัวถังประกอบไปด้วยเหล็ก
ทนแรงบิดตัวสูงพิเศษจำนวน 53% และมีการใช้วัสดุตัวถังอลูมิเนียม อาทิ ฝากระโปรง, แก้มล้อและชิ้นส่วนช่วงล่างที่ช่วย
ลดน้ำหนักลง 12.6 กิโลกรัม

เห็นหน้าตาแบบนี้อย่าดูถูกเพราะ Hyundai Ioniq มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียงแค่ 0.24 เท่านั้น เนื่องจาก
Hyundai ได้ออกแบบชิ้นส่วนบางอย่างให้ลมไหลลื่น อาทิ ช่องดักลมหน้าที่ให้ลมพัดผ่านเป็นม่านอากาศ, ติดตั้งสปอย
เลอร์ท้าย/Diffuser, การขึ้นลายตัวถังข้าง, เพิ่มชิ้นส่วนปิดใต้ตัวถังและออกแบบลายล้อแบบปิด

ระบบ ECO-DAS (Eco-Driving Assistant System) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเซฟพลังงานแบตเตอรี่อาศัยข้อมูลแผนที่ผ่าน
ดาวเทียมและข้อมูลระดับการจราจร

ภายในห้องโดยสารมาแบบเรียบง่าย เน้นพื้นที่ใช้สอย ประกอบไปด้วยวัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สุดท้าย Hyundai Motor ตั้งปณิธานชัดเจนแล้วว่า Hyundai จะต้องส่งรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 22 รุ่นรวด
ภายในปี 2020 แน่นอน เชื่อว่า Hyundai น่าจะเป็นหนึ่งในค่ายรถรายใหญ่ที่มีส่วนต่อการเปลี่ยนแปลงตลาดรถยนต์ใน
อนาคตแน่นอน

ที่มา : Autocar/Worldcarfans