หลังจากที่เห็นว่า Tesla ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ แบบจำหน่ายรถยนต์โดยตรงให้กับลูกค้า โดยที่ที่ไม่ผ่านดีลเลอร์ ประกอบกับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่นิยมในตลาดจีน Ford จึงนำโมเดลธุรกิจดังกล่าวมาปรับใช้ที่จีนในชื่อแผน Ford China 2.0 ซึ่งเริ่มต้นการจำหน่าย Ford Mustang Mach-E ให้กับลูกค้าชาวจีนแบบไม่ผ่านผู้แทนจำหน่ายนับตั้งแต่ปี 2021 แต่กลายเป็นว่าเพียงสองปีให้หลัง บริษัทกลับยกเลิกแผนดังกล่าว
มีรายงานว่า Ford ได้ยุติการจำหน่ายรถยนต์ให้กับ ลูกค้าชาวจีนโดยตรงในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้มีเพียงแต่ Ford Mustang Mach-E เท่านั้นที่เคยจำหน่ายด้วยวิธีนี้ แต่ยังรวมไปถึงรถยนต์พลังงานใหม่สำหรับชาวจีนโดยเฉพาะรุ่นอื่นอย่าง Ford Evos และ Ford Escape PHEV โดยทั้งหมดนี้จะกลับไปจัดจำหน่ายผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายแทน
มีการวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่ Ford เปลี่ยนแผนช่องทางการจัดจำหน่ายเพราะ Ford Mustang Mach-E ไม่ได้ประสบความสำเร็จด้านยอดขายนัก โดยนับตั้งแต่เปิดตัวจนถึงปี 2023 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้มียอดขายในจีนเดือนละไม่กี่ร้อยคัน ครองส่วนแบ่งตลาด EV ที่นั่นเพียง 2% ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถแข่งขันได้ เพราะมีพิสัยการขับขี่และลูกเล่นน้อยกว่า EV คู่แข่งสัญชาติจีน
ไม่เพียงแค่นั้น มีการวิเคราะห์ว่า Ford ยังดำเนินกลยุทธ์ด้านการตลาด, การขาย และขั้นตอนการแก้ไขปัญหาในจีนได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซ้ำยังมีปัญหาการส่งมอบล่าช้าไปหลายเดือน เนื่องจาก BYD ผู้ที่ผลิตแบตเตอรี่ให้ ได้เปลี่ยนไปโฟกัสการผลิตแบตเตอรี่แบบอื่น จนส่งผลให้ Ford Mustang Mach-E ไม่ได้แจ้งเกิดในแดนมังกร
ที่มา: carscoops