แบรนด์ Galaxy เป็นอีกหนึ่งขุนพลที่ทาง Geely วางกลยุทธ์ให้ต่อกรกับบรรดารถยนต์ร่วมสัญชาติแดนมังกร ที่มีความหรูหราแต่ราคาจำหน่ายเอื้อมถึงได้ง่าย โดยล่าสุดได้เปิดตัว Galaxy L7 รถ SUV ขุมพลัง Plug-in hybrid รุ่นพิเศษ Phantom Edition ที่เพิ่มเติมระบบช่วยเหลือการขับขี่ NOA advanced driving assistance ซี่งนับเป็นบริการในรูปแบบ subscription โดย Geely ได้แถมให้กับผู้ที่จับจอง Galaxy L7 รุ่นพิเศษนี้รวมไปถึงผู้ที่ออกรถไปก่อนหน้า ให้เข้ามารับการอัพเกรดได้ฟรี และสามารถใช้ได้เป็นระยะเวลา 2 ปี

งานออกแบบภายนอกยังคงเป็นธีม Galaxy Light design language โดยมาพร้อมกับด้านหน้าที่ได้รับอิทธิพลมาจากรถ EV ในปัจจุบัน ด้วยกระจังหน้าแบบทึบและไฟหน้าแบบแยกชิ้นตามสมัยนิยม โดยที่ออกแบบช่องดักลมด้านหน้าไว้กึ่งกลางกันชน พร้อมด้วยเรดาร์บริเวณตรงกลางตัวรถ ด้านมุมกันชนหน้าทั้ง 2 ข้าง ยังมาพร้อมไฟ DRL แนวตั้งสุดโฉบเฉี่ยวและไฟตัดหมอกแบบ LED พร้อมช่องรับลงขนาดเล็กส่งผ่านไปยังระบบเบรกคู่หน้า

มิติตัวรถ

• ความยาว 4,700 มิลลิเมตร
• ความกว้าง 1,905 มิลลิเมตร
• ความสูง 1,685 มิลลิเมตร
• ระยะฐานล้อ 2,785 มิลลิเมตร

ภายในมาพร้อมกับหน้าจอจำนวน 3 ชิ้น ครบครันไปด้วยความบันเทิงและการเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆ และการแสดงผลที่เต็มตา เริ่มที่หน้าจอมาตรวัดผู้ขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว แบบซ่อนตัวไปกับแผงคอนโซลหน้า ลดการรบกวนสายตา ขณะที่จอกลางขนาด 13.2 นิ้วแนวตั้ง มีการวางให้เอียงเข้าหาผู้ขับขี่เล็กน้อย ไฮไลท์อยู่ที่หน้าจอความบันเทิงของผู้โดยสารด้านหน้าขนาดจุใจถึง 16.2 นิ้ว ทั้งหมดนี้ประมวลผลและสั่งการผ่านชิปอันทรงพลังจาก Qualcomm Snapdragon 8155 ที่เป็นหัวใจหลักของระบบปฏิบัติการ Galaxy NOS system ขณะที่ข้อมูลการขับขี่จะแสดงผลที่กระจกบังลมหน้าผ่านระบบ AR ขนาด 25.6 นิ้ว

เบาะนั่งภายในมาพร้อมฟังก์ชั่นเบาะนวด ระบบระบายลมและระบบอุ่นเบาะ และพิเศษกับโหมดเอนนอนได้เป็นมุม 125 องศา กับ Theater mode เพื่อเปลี่ยนให้เบาะนั่งคู่หน้าเอนนอนได้อย่างสบายยิ่งขึ้น

ระบบความปลอดภัยและตัวช่วยการขับขี่จัดเต็มด้วยการติดตั้งเรดาร์รูปแบบ ultra-long-range 1 ตัว ทำงานร่วมกับลูกสมุนเรดาร์จับเส้นทางระยะไกลปกติอีก 4 ตัว พร้อมด้วย Ultrasonic เรดาร์อีก 12 ตัว และกล้องความละเอียดสูง 8  ล้านพิกเซลจำนวน 1 ตัว และ กล้องความละเอียด 2.5 ล้านพิกเซลอีก 1 ตัว ทั้งหมดนี้จะทำงานแบบผสมผสาน ภายใต้การควบคุมจากระบบช่วยเหลือการขับขี่ Navigation On Highway Assist พร้อมการจดจำเส้นทางอัตโนมัติ หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเลน การแซงที่ความเร็วอันตราย ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุในบริเวณที่มีสถิติบันทึกไว้

ขุมพลัง NordThor Hybrid 8848 system หรือ Plug-in hybrid ในรูปแบบ Range extender เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟ พร้อมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวให้กำลังสูงสุดรวม 390 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 535 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 3 จังหวะ DHT ที่เพลาล้อคู่หน้า โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 2 ความจุให้เลือก ให้ระยะทางสูงสุดในโหมด EV ได้มากถึง 55 และ 115 กิโลเมตร ตามลำดับ (มาตรฐาน CLTC) โดยเมื่อรวมพลังงานจากเครื่องยนต์สันดาปจะทำให้ได้พิสัยการเดินทางสูงสุด 1,310 และ 1,370 กิโลเมตร ตามลำดับ มาพร้อมอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.9 วินาที

ที่มา: Carnewschina