การหวนคืนตลาดรถยนต์ซีดานขนาดกลางขับเคลื่อนล้อหลังเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งรถระดับหรูต่างชาตินั้นก็ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของ Hyundai เพราะใคร ๆ ก็ทราบดีว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์ที่หลายคนใฝ่ฝันเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และคุณภาพโดยรวมทั้งหมด
แม้ชื่อชั้น Hyundai ไม่อาจเทียบเคียงกับแบรนด์พรีเมี่ยมได้แต่สำหรับตลาดแมสแล้วล่ะก็ชื่อ Hyundai ไม่อายใครเลยจริง ๆ ซึ่งต้องยกคุณงามความดีส่วนหนึ่งให้กับรถยนต์รุ่นใหม่ขึ้นดาหน้าสร้างชื่อเสียงตลอดมา เริ่มจาก Hyundai Genesis ที่ริอาจเทียบชั้น BMW 5-Series กันเลยทีเดียว
หลังจากประสบความสำเร็จในด้านชื่อเสียงแล้ว Hyundai ก็จำเป็นต้องกระตุ้นความน่าสนใจให้กับ Genesis อย่างสม่ำเสมอ
การปรับปรุงรูปลักษณ์ Hyundai Genesis Minorchange จึงเป็นทางออกที่ดีเพราะรถรุ่นนี้มีอายุในตลาดครึ่งอายุของมันแล้ว ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็คือการปรับลุคให้ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ไล่ตั้งแต่ชุดกระจังหน้าถูกปรับปรุงเล็กน้อยพร้อมชุดกันชนหน้าออกแบบใหม่ให้ปราดเปรียวยิ่งขึ้น, ชุดไฟหน้าติดตั้ง Daylight LED, ติดตั้งสเกิร์ตข้างช่วยทำให้รถดูปราดเปรียวยิ่งขึ้น ส่วนบั้นท้ายก็เปลี่ยนแค่รายละเอียดไฟท้ายเสียใหม่ ดูเผิน ๆ เหมือนรถ infiniti บางรุ่น
ขุมพลังมีให้เลือก 3 บล๊อก ได้แก่ เครื่องยนต์ V6 3.8 ลิตร 338 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 40.17 กิโลกรัมเมตร ถูกปรับปรุงให้แรงขึ้นกว่าเครื่องเดิมถึง 44 แรงม้า (PS), เครื่องยนต์ V8 4.6 ลิตร 390 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 44.7 กิโลกรัมเมตร และ R-Spec V8 5.0 ลิตร 435 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 51.9 กิโลกรัมเมตร
ทุกรุ่นจับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมกับปรับปรุงเบรคให้ดีขึ้น, เพิ่มขนาดเหล็กกันโคลงหลังให้ใหญ่ขึ้น สำหรับ R-Spec จะปรับจูนช่วงล่างแนวสปอร์ต, ปรับแต่งพวงมาลัยให้คมยิ่งขึ้น, พ่นโครเมี่ยมสีหม่นและเปลี่ยนเป็นล้อแมกซ์ 19 นิ้ว
กำหนดวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาปลายปีนี้ครับ