Subaru Forester ตัวถังปัจจุบัน ซึ่งนับเป็น generation ที่ 5 เปิดตัวที่บ้านเกิดเป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2018 และมีการปรับอุปกรณ์เรื่อยมาจนถึงครั้งล่าสุดในวันนี้ ที่มีทั้งภายนอก, ภายใน และอุปกรณ์ความปลอดภัย เริ่มต้นกับหน้าตาก่อนซึ่งทุกรุ่นย่อยจะมาพร้อมกับเสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ และสปอยเลอร์หลังคาทรงเดียวกับรุ่นท็อปอย่าง STI Sport

ในส่วนของอุปกรณ์ที่เพิ่มเข้ามา Subaru Forester เวอร์ชั่นญี่ปุ่น รุ่นปรับอุปกรณ์ เฉพาะรุ่นย่อย X-Break และ Advance ติดตั้งฝาท้ายเปิดปิดไฟฟ้ามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่น X-Break เพิ่มเบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ปิดท้ายด้วยการปรับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ให้แจ้งเตือนเมื่อตรวจจับเจอวัตถุขณะถอยหลังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มความปลอดภัยอีกระดับ

 

ขุมพลังของ Subaru Forester เวอร์ชั่นญี่ปุ่น รุ่นปรับอุปกรณ์ คงเดิมกับเครื่องยนต์เบนซินสองแบบ ดังนี้

  • 1.8 ลิตร เทอร์โบ

รหัส CB18 แบบ 4 สูบนอน BOXER พร้อมหัวฉีด Direct Injection ขนาด 1,795 ซีซี เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.6 x 88.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.4 : 1 กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 5,200 – 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 3,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนสี่ล้อ

  • 2.0 ลิตร e-BOXER

รหัส FB20 แบบ 4 สูบนอน BOXER พร้อมหัวฉีด Direct Injection ขนาด 1,995 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 กำลังสูงสุด 145 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 188 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 13.6 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 65 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนสี่ล้อ

 

Subaru Forester เวอร์ชั่นญี่ปุ่น รุ่นปรับอุปกรณ์ เปิดตัวเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2023 มีเป้าหมายยอดขายเดือนละ 1,800 คัน สนนราคาจำหน่ายที่นั่น โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย และแบ่งตามประเภทเครื่องยนต์ดังนี้

  • 1.8 ลิตร เทอร์โบ ราคา 3,150,000 – 3,400,000 เยน (ราว 758,000 – 818,000 บาท)
  • 2.0 ลิตร e-BOXER ราคา 2,790,000 – 3,090,000 เยน (ราว 671,000 – 743,000 บาท)

 

ที่มา: Subaru, car.watch.impress