Mercedes-EQ ทำการเปิดตัว EQB Facelift ปี 2024 หลังจากเพิ่งอัพเดท Model Year 2022 ไปได้เพียงไม่นาน โดยงานออกแบบภายนอกมีการปรับกระจังหน้าไปใช้ลวดลายตราดาว ที่ประดับประดาลงบนพื้นหลังของกระจังแบบทึบสีดำเงา ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ดาวสีเงินหรือสีดำ แทนที่เส้นคาดกลาง 2 เส้นแบบเรียบง่ายในรุ่นปัจจุบัน พร้อมด้วยกันชนหน้าออกแบบรายละเอียดใหม่ให้เข้าชุดกัน โดยที่ชุดไฟหน้ายังคงใช้ของเดิมจากรุ่นปัจจุบัน

 

ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้ายชุดใหม่ โดยทำการเปลี่ยนรายละเอียดภายในโคมใหม่ โดยรูปแบบเส้นแนวยาวตลอดความกว้างตัวถังตามสมัยนิยม พร้อมด้วยเส้นขนาดเล็กที่ขอบด้านล่างของโคม ขณะที่กันชนท้ายยังคงใช้ชุดเดิม ในส่วนของสีตัวถังที่เพิ่มเติมสีฟ้า Starling Blue และ สีเงิน Cirrus Silver

 

ภายในมาพร้อมหน้าจอกลางขนาด 10.25 นิ้วชุดเดิม แต่ได้ทำการอัพเดทระบบปฏิบัติการ Zero Layer MBUX เวอร์ชั่นใหม่ ที่ติดตั้งการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย เพิ่มการแสดงผลข้อมูลการขับขี่ที่มากยิ่งขึ้น พร้อมปรับสไตล์และธีมการแสดงผลให้รองรับข้อมูลเพิ่มเติม รวมไปถึงระบบสั่งงานด้วยเสียง ทั้งหมดนี้ยังสามารถอัพเดทผ่านระบบ Over-the-Air ตามสมัยนิยม พร้อมด้วย Mercedes Me store ที่สามารถเลือกติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ เพิ่มเติมได้ ยกระดับความบันเทิงด้วยเครื่องเสียงจาก Dolby Atmos พร้อมออฟชั่นลำโพงจาก Burmester audio system จากรุ่นพี่

 

อย่างไรก็ตาม ออฟชั่นที่ชูจุดเด่นการใช้งานความเป็นรถ EV ได้แก่ “Plug & Charge” ที่ทำให้การชาร์จไฟให้กับรถคันนี้เป็นไปได้โดยง่าย ปราศจากการใช้แอพพลิเคชั่น เพียงแค่จอดรถในช่องชาร์จและเสียบปลั๊ก หลังจากนั้นทางท่าชาร์จและตัวรถจะสื่อสารกันเองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมีการสั่งงานเพิ่มเติมจากผู้ขับขี่ และหากผู้ขับขี่อยากตรวจสอบสัดส่วนการใช้พลังงานของฟังก์ชันแต่ละอย่างในตัวรถ ก็สามารถเลือกดูได้จากหน้าจอกลาง พร้อมด้วยการสั่งให้แต่ละระบบใช้ปริมาณพลังงานไฟฟ้าน้อยลง เพื่อเพิ่มระยะทางวิ่งสูงสุด

ในส่วนของระบบความปลอดภัย ที่ติดตั้งระบบกล้องรอบคัน ซึ่งทำการอัพเกรดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการติดตั้งกล้องสำหรับตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่ และนำไปประมวลผลการรับมือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ล่วงหน้า

 

สำหรับไลน์อัพขุมพลังไฟฟ้าล้วน 100% มีให้เลือก ดังนี้

EQB 250

ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permarnent Magnet Synchronous Motor (PSM) กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 385 นิวตัน-เมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion 66.5 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จอยู่ที่ 535 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)

EQB 250+

ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permarnent Magnet Synchronous Motor (PSM) กำลังสูงสุด 228 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 390 นิวตัน-เมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion 70.5 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จอยู่ที่ 578 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)

EQB 300 4MATIC

ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Asynchronous Motor (ASM) ที่ล้อคู่หน้า และมอเตอร์ไฟฟ้า Permarnent Magnet Synchronous Motor (PSM) ที่ล้อคู่หลัง กำลังสูงสุดรวม 228 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 390 นิวตัน-เมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion 66.5 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จอยู่ที่ 461 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)

EQB 350 4MATIC

ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Asynchronous Motor (ASM) ที่ล้อคู่หน้า และมอเตอร์ไฟฟ้า Permarnent Magnet Synchronous Motor (PSM) ที่ล้อคู่หลัง กำลังสูงสุดรวม 292 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 520 นิวตัน-เมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion 66.5 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จอยู่ที่ 461 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)

ทั้ง 3 รุ่น รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง AC ผ่านหัวชาร์จแบบ Type 2 สูงสุด 11 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC ด้วยหัวชาร์จ CCS2 สูงสุด 100 kW

ที่มา: Autoblog