หลังจากมีภาพหลุดออกมาหลายเดือนก่อน สำหรับแฟนๆ รถสปอร์ต 2 ที่นั่งจาก Nissan ที่เป็นการปลุกตำนานให้ตื่นอีกครั้งอย่าง Nissan Z ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2022 และได้มีการอัพเกรดผ่านชื่อรุ่นที่คุ้นหูกันอย่าง Z NISMO ที่ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 31 กรกฎาคม 2023

 

ภายนอกมาพร้อมชุดแต่งรอบคันเสริมความดุดันตั้งแต่กันชนหน้าพร้อมสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ ที่เรียกว่ารูปทรง G-Nose กระจังหน้าเป็นตระแกรงขนาดกว้างขึ้นกว่ารุ่นปกติ ตกแต่งด้วยโลโก้ NISMO รายละเอียดตะแกรงที่มีความบางเฉียบเพื่อให้สามารถรับลมได้อย่างเต็มที่ ไฮไลท์อยู่ที่สเกิร์ตทรงเฉี่ยวบริเวณมุมทั้ง 2 ข้างของกันชนหน้า ที่นอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ยังสามารถช่วยให้ควบคุมกระแสลมได้อย่างดีเยี่ยม เพิ่มแรงกดด้านหน้าอีกเล็กน้อย และไม่ลืมที่จะเติมเส้นตกแต่งสีแดงที่ชายล่างทั้งหมด ด้านข้างมาพร้อมกับสเกิร์ตขนาดใหญ่ตัดขอบด้วยสีแดงเช่นเดียวกับด้านหน้า

 

สิ่งที่ดึงดูดความสนใจงานออกแบบรอบคันได้อย่างดีเยี่ยม ได้แก่ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว น้ำหนักเบาลายเฉพาะรุ่นจาก Rays รัดด้วยยางจาก Dunlop SP Sport Maxx GT600 ขนาด 255/40R19 ที่คู่หน้าและ 285/35R19 สำหรับคู่หลัง กันชนหลังทรงเฉี่ยว ที่ตกแต่งด้วยแผ่นดิฟฟิวเซอร์สีดำเงาที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก GT-R พร้อมท่อไอเสียคู่ปลายกลมแบบแยกฝั่งซ้าย-ขวา โดดเด่นด้วยเส้นสีแดงลากยาวต่อเนื่องมาจากด้านข้าง ติดตั้งสปอยเลอร์แบบเรียบ ปิดท้ายด้วยโลโก้ NISMO บริเวณกลางลำ

 

ภายในมาพร้อมเบาะนั่งสปอร์ตจาก Recaro หุ้มด้วยหนัง Alcantara พร้อมหน้าจอมาตรวัดแบบ Full digital ที่ติดตั้งกราฟิกจาก NISMO มีการตกแต่งด้วยทริมสีแดงสดตามจุดต่างๆภายในห้องโดยสาร พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง Alcantara จาก NISMO เติมเต็มความพิเศษด้วยป้าย NISMO และปุ่มกดสตาร์ท พร้อมปุ่มปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่จาก NISMO

 

ขุมพลังของ Nissan Z Nismo ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส VR30DDTT เบนซิน V6 DOHC 24 วาล์วขนาด 3.0 ลิตร (2,997 ซีซี) กระบอกสูบ x ช่วงชัก 86 x 86 มิลลิเมตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection พร้อมระบบอัดอากาศ แบบ Twin-Turbocharger พ่วง Intercooler แบบผสม water-to-air ได้รับการปรับแต่งให้มีกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 420 แรงม้า (PS) ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 521 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-5,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ พร้อม Manual Mode และ คันเกียร์แบบไฟฟ้า ที่ได้รับการปรับแต่งจาก NISMO พร้อมออยคูลเลอร์สำหรับเครื่องยนต์จาก NISMO

 

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มโหมดการขับขี่ Sport + ที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับรุ่น NISMO เพื่อช่วยให้การขับขี่ในสนามสามารถดึงประสิทธิภาพของตัวรถได้อย่างดีเยี่ยม โปรแกรมการเปลี่ยนเกียร์ถูกปรับให้เข้ากับการตอบสนองที่ทันใจมากยิ่งขึ้นของเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับช่วงล่างที่ติดตั้งเหล็กกันโคลง โช้คอัพและสปริงที่ออกแบบมาเฉพาะรุ่น รวมไปถึงการติดตั้งชุดค้ำ บุชยางตามจุดต่างๆ เพื่อเสริมความแข็งแรงของตัวถัง และระบบเบรกจาก Akebono พร้อมคาลิปเปอร์พ่นสีแดง

 

Nissan Z Nismo มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีแดง Passion Red TriCoat สีเงิน Brilliant Silver สีดำ Black Diamond Peral สีขาว Everest White Pearl TriCoat และสีพิเศษเฉพาะรุ่นสีเทา Stealth Gray

ที่มา: Motor1